xs
xsm
sm
md
lg

“รบ.-กลุ่มกบฏซีเรียต่างๆ” เร่งเพิ่มอำนาจต่อรอง ก่อนเจรจาสันติภาพ “เจนีวา 2”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กบฏซีเรียคนหนึ่งแอบซ่อนตัวข้างหน้าต่าง ขณะกบดานอยู่ในตึกแห่งหนึ่ง ในเมืองเดอีร์เอซซอร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย
เอเอฟพี – ขณะที่รัฐบาลซีเรียออกมาให้คำมั่นว่า จะยืนหยัดต่อสู้ “การก่อการร้าย” ฝ่ายกลุ่มกบฏก็ยืนกรานว่าประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด จะต้องลงจากตำแหน่ง ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายพยายามเพิ่มอำนาจการต่อรองของตนอย่างเต็มที่เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ภายหลังสหประชาชาติกำหนดวันเปิดการเจรจาสันติภาพนานาชาติในนครเจนีวา ตามที่มีการวางแผนมายาวนานแล้ว

การเจรจาสันติภาพที่นครเจนีวา ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 22 มกราคมนี้ มุ่งหมายจะยุติสงครามกลางเมืองซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี โดยเหตุนองเลือดครั้งยาวนานนี้ได้คร่าชีวิตชาวซีเรียไปประมาณ 120,000 ราย อีกทั้งบีบให้ประชาชนอีกหลายล้านต้องละทิ้งถิ่นที่อยู่เพื่อหลีกหนีภัยสงคราม

อย่างไรก็ตาม แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันอย่างหลวมๆ ของกบฏกลุ่มต่างๆ และกำลังมีจุดยืนแตกต่างไปจากพวกกบฏถืออาวุธในสนามรบมากขึ้นเรื่อยๆ ได้เน้นย้ำว่า ในอนาคตอัสซาดจะต้องไม่มีบทบาทในซีเรีย ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ระบอบปกครองดามัสกัสปฏิเสธ ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถประนีประนอมกันได้หรือไม่

ในขณะเดียวกัน การสู้รบก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง ล่าสุดเมื่อวานนี้ (26) เพิ่งเกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ที่บริเวณป้ายรถประจำทางทางตะวันตกของกรุงดามัสกัส ซึ่งคร่าชีวิตชาวซีเรียไปอีก 15 คน และยังมีการสู้กันปะทุขึ้นในแถบตะวันออก และทางเหนือของเมืองหลวง อันเป็นพื้นที่แนวหน้าสำคัญ

ทางด้าน อิหร่าน ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรสำคัญของระบอบปกครองซีเรีย ที่เพิ่งบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น เรื่องโครงการนิวเคลียร์ของตน ร่วมกับบรรดาชาติมหาอำนาจเมื่อวันอาทิตย์ (24) แถลงวานนี้ (26) ว่าพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจาที่เรียกขานกันว่า การประชุมสันติภาพนานาชาติ “เจนีวา 2” แต่ไม่ขอยอมรับเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ ทั้งสิ้น
สมาชิกกลุ่มกบฏสอดปากกระบอกปืนเข้าไปในรูกำแพง เพื่อยิงกองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด
ภายหลังที่เมื่อวานนี้ (26) องค์การสหประชาชาติได้ประกาศวันเวลาที่จะจัดการหารือสันติภาพ ฝ่ายแนวร่วมแห่งชาติซีเรียได้ยืนยันจุดยืนเดิมที่ว่า “ขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไม่ให้อัสซาด หรืออาชญากรคนใดก็ตาม ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการเข่นฆ่าประชาชนชาวซีเรีย เข้ามามีบทบาทในรัฐบาลรักษาการ หรือในการเมืองของซีเรียในอนาคต”

แม้กระนั้น กลุ่มแนวร่วมบอกว่า พวกเขามองว่าการกำหนดเวลาในการประชุมที่แน่นอนเช่นนี้เป็นสัญญาณ “ในเชิงบวกอย่างยิ่ง”

นอกจากนี้ ฝ่ายกบฏยังเรียกร้องให้บรรดาชาติมหาอำนาจ “ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมดของซีเรียอย่างทั่วถึง และขอให้ปล่อยตัวนักโทษทั้งหมด” รวมทั้งควรจะ “ยุติ (เหตุการณ์ฆ่าหมู่) ในทันที”

แต่สำหรับ เซลิม อีดริส ผู้บัญชาการกองทัพซีเรียเสรี (Free Syrian Army) กล่าวว่ากองทัพของเขาก็พร้อมจะเข้าร่วมการเจรจา หาก “มีการกระทำตามข้อเรียกร้องต่างๆ ของนักปฏิวัติในสนาม” รวมไปถึงการขับไล่อัสซาดด้วย

ขณะที่ทั้งแนวร่วมแห่งชาติซีเรีย และกองทัพซีเรียเสรีกำลังได้รับแรงสนับสนุนจากฝ่ายมหาอำนาจชาติตะวันตก แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขามีอำนาจควบคุมกลุ่มกบฏ ที่กำลังสู้รบอยู่ในสนามขณะนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหมายรวมถึงการก่อเหตุของกบฏจีฮัด ซึ่งกำลังแผ่อิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ และสู้รบปรบมือกับทั้งรัฐบาลดามัสกัส และฝ่ายกบฏด้วยกันเอง

ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรของพวกกบฏซีเรียกลุ่มหนึ่ง ที่เพิ่งรวมตัวโดยใช้ชื่อว่า “แนวร่วมอิสลามิสต์” (Islamic Front) ได้ระบุเมื่อวานนี้ (26) ว่า ต้องการจะเปลี่ยนระบอบปกครองซีเรียให้เป็น “รัฐอิสลาม”

ในข้อตกลงร่วมกันของฝ่ายแนวร่วมอิสลามิสต์ ซึ่งกำลังกลายเป็นกลุ่มกบฏติดอาวุธใหญ่ที่สุดของซีเรีย โดยที่มีนักรบต่อสู้ขับไล่อัสซาดเป็นจำนวนรวมหลายหมื่นคน ระบุว่าพวกเขาต้องการมีบทบาททางการเมือง และทางสังคม นอกเหนือจากในสนามรบ
กลุ่มทหารและพลเรือนชาวซีเรีย กำลังมุงดูรถยนต์ ที่ถูกคนร้ายใช้ก่อเหตุระเบิดรถยนต์ บริเวณป้ายรถประจำทาง ทางตะวันตกของกรุงดามัสกัส
ภายใต้หัวเรื่องย่อย “ประชาธิปไตย และรัฐสภา” ของข้อตกลงฉบับดังกล่าว กลุ่มแนวร่วมอิสลามิสต์กล่าวว่า รัฐบาลที่เป็นตัวแทนของซีเรียนั้น “ต้องมาจากแนวคิดที่ว่าประชาชนมีสิทธิร่วมกำหนดกฎหมายผ่านสถาบันต่างๆ ในขณะที่องค์อัลเลาะห์คือผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ”

นอกจากนั้น ข้อตกลงฉบับนี้ระบุเพิ่มเติมว่า หนทางเดียวที่จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่มได้ก็คือ การใช้วิธี “การลุกฮือก่อกบฏด้วยกำลังทหาร”

ในเวลาเดียวกันนี้ ระบอบปกครองซีเรียก็ได้ปฏิเสธไม่ยอมรับเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ ในการเจรจาสันติภาพ และอัสซาดกล่าวว่าเขาต้องการจะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2014 นี้ด้วย

หนังสือพิมพ์ อัล-วาตัน ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลซีเรียได้รายงาน โดยอ้างเนื้อความในหนังสือของวาลิด มูอัลเล็ม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ที่ส่งถึงยูเอ็นว่า “สงครามปราบปรามการก่อการร้าย ที่ตั้งเป้าทำร้ายประชาชนชาวซีเรีย คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ของทางออกอย่างสันติใดๆ ก็ตาม”
เขาเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ หยุดส่งเงินช่วยเหลือ หรืออาวุธให้กับ “กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ” โดยได้ระบุชื่อ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี

เมื่อวานนี้ (26) โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านแถลงว่า “การไปปรากฏตัวในการประชุมสันติภาพเจนีวา 2 ของอิหร่านจะเป็นสิ่งสำคัญในการแก้วิกฤตความขัดแย้งในซีเรีย และเราพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจา โดยปราศจากเงื่อนไขเล่วงหน้าใดๆ ทั้งสิ้น”

ทั้งนี้ เขากำลังหมายถึงการที่สหรัฐฯ เรียกร้องว่าก่อนจะเข้าร่วม “เจนีวา 2” ได้อิหร่านต้องลงนามยอมรับข้อตกลง ในการประชุม “เจนีวา 1” เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2012 เสียก่อน โดยข้อตกลงสำคัญในคราวนั้นตั้งเป้าว่าจะจัดตั้งรัฐบาลรักษาการของซีเรีย แต่ไม่ได้ระบุเงื่อนไขว่า อัสซาดจะต้องลงจากตำแหน่ง
(ภาพจากแฟ้ม) ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียขณะให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เตเลซูร์ ของทางการเวเนซุเอลา
กำลังโหลดความคิดเห็น