เอพี – ทางการเกาหลีเหนือได้จับกุมตัวอดีตทหารผ่านศึกชาวอเมริกันวัย 85 ที่เคยร่วมรบในสงครามเกาหลี ขณะกำลังนั่งเครื่องบินเพื่อเดินทางออกจากโสมแดงเมื่อเดือนที่แล้ว ลูกชายของเขาเผย
เจฟฟรีย์ นิวแมน ลูกชายของเขาเล่าวานนี้ (20) ว่าเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม มีเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในชุดเครื่องแบบขึ้นมาบนเครื่องบิน และขอให้ เมอร์ริล นิวแมน นักท่องเที่ยวจากเมืองปาโลอัลโต มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นพ่อของเขา แสดงหนังสือเดินทาง ก่อนจะบอกแอร์โฮสเตสคนหนึ่งว่า นิวแมนต้องลงจากเครื่องบินลำนั้น
“พ่อของผมลงจากเครื่องบินไปพร้อมกับแอร์โฮสเตสคนนั้น และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นเขา” เจฟฟรีย์ นิวแมนให้สัมภาษณ์เอพี ที่บ้านของเขา ในเมืองปาซาเดนา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย
อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ชายผู้นี้ถูกจับกุม ขณะที่ลูกชายของเขาคอยติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อปรึกษาเรื่องพ่อของเขาอยู่ตลอด แต่ทางการสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาแถลงยืนยันการจับกุมกับสื่อมวลชนโดยอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และแม้แต่สื่อของทางการเกาหลีเหนือเองก็ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวการจับกุมชาวอเมริกันครั้งนี้ ซึ่งหนังสือพิมพ์ซานโฮเซเมอร์คิวรีนิวส์ของอเมริกัน และสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นนำเสนอเป็นรายแรก
ลูกชายของเขาเล่าว่า เพื่อนร่วมเดินทางของพ่อบอกเขาว่า ก่อนหน้านี้นิวแมนได้โต้เถียง “อย่างดุเดือด” กับทางการเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขา ในช่วงสงครามระหว่างกองกำลังของยูเอ็น ที่นำโดยสหรัฐฯ กับฝ่ายเกาหลีเหนือ และชาติพันธมิตรอย่างจีน ในปี 1950-53 โดยสงครามครั้งนั้นสิ้นสุดลงด้วยการทำสัญญาสงบศึกชั่วคราว ไม่ใช่การทำข้อตกลงสันติภาพ ทำให้ในทางเทคนิคแล้ว คาบสมุทรเกาหลีเหนือยังมีสภาพเป็นสมรภูมิอยู่ และสงครามครั้งนั้นถือเป็นส่วนสำคัญของโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ ที่กล่าวหาสหรัฐฯ และเกาหลีใต้อยู่เป็นประจำว่า พยายามโค่นระบบการเมืองของเกาหลีเหนือ ซึ่งพวกนักวิเคราะห์เชื่อว่าการออกมากล่าวเช่นนี้ก็เพื่อเรียกคะแนนสนับสนุนจากคนในชาติให้แก่ คิม จองอึน ผู้นำของประเทศ
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ เมอร์ริล นิวแมน กำลังร่วมเดินทางกับ บ็อบ ฮัมร์ดลา เพื่อนของเขา ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากเกาหลีเหนือได้ ทั้งนี้ ฮัมร์ดลาระบุในคำแถลงว่า “ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันอย่างร้ายแรง” และขอให้ปล่อยตัวนิวแมนกลับมาอยู่กับครอบครัวโดยเร็ว
เจฟฟรีย์ นิวแมน เล่าว่า พ่อของเขาต้องการไปเกาหลีเหนือมาโดยตลอด และได้เรียนภาษาเกาหลี ก่อนเดินทางไปเที่ยวที่นั่น 9 วัน นิวแมนกล่าวว่า เขาเชื่อว่าแรงบันดาลใจเช่นนี้เกิดขึ้นจากการที่พ่อไปร่วมรบสงครามเกาหลีกับหน่วยทหารราบนาน 3 ปี แต่ก็ไม่เคยเล่าเหตุการณ์ขณะปฏิบัติภารกิจให้ฟังมาก่อน
เจฟฟรีย์ นิวแมนกล่าวว่า เอกอัครราชทูตสวีเดนได้ส่งยารักษาโรคหัวใจของพ่อ ไปที่กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือแล้ว แต่เขาไม่แน่ใจว่าพ่อจะได้รับหรือไม่
ทางด้าน กลีน เดวีส์ นักการทูตสหรัฐฯ กล่าวกับนักข่าวว่า การที่เกาหลีเหนือจับกุมพลเมืองอเมริกันเป็นข้อบ่งชี้อีกประการว่า ประเทศนี้ไม่ได้ต้องการกลับมาร่วมเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์อีกครั้งอย่างจริงจังอะไร