เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รายงานล่าสุดขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (20) ระบุ ประชากรใน 49 ประเทศที่ได้ชื่อว่ายากจนข้นแค้นที่สุดของโลก มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเท่าตัวเป็นกว่า 1,700 ล้านคนภายในปี ค.ศ. 2050 และ “การสร้างงาน” จะถือเป็นมาตรการสำคัญยิ่ง ในการหยุดยั้งปัญหาความยากจนไม่ให้ขยายตัว ตลอดจน ป้องกันปัญหาความไม่สงบทางสังคม และการอพยพย้ายถิ่นข้ามประเทศ
ยูเอ็นเผยแพร่รายงานชุด “The Least Developed Countries Report 2013” ในวันพุธ (20) เพื่อเรียกร้องให้กลุ่ม 49 ประเทศที่ติดอันดับยากจนที่สุดของโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในแอฟริกาและเอเชีย เร่งดำเนินมาตรการต่างๆที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ปฏิรูประบบการศึกษา สนับสนุนธุรกิจและผู้ประกอบการภายในประเทศเพื่อ “สร้างงาน”
รายงานดังกล่าวซึ่งจัดทำโดยที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ชี้ว่า การลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างสำคัญ ตลอดจนการปรับปรุงด้านการคมนาคมขนส่งและความสามารถในการสนองความต้องการด้านพลังงาน จะช่วยเพิ่มมูลค่าและความหลากหลายของสินค้าและบริการที่ผลิตโดยประเทศยากจนทั้ง 49 ประเทศเหล่านี้ ซึ่งมีความจำเป็นต้องสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ ให้กับประชาชนของตัวเองให้ได้กว่า 16 ล้านตำแหน่งในทุกๆปี
รายงานของอังค์ถัดยังชี้ว่า ประเทศยากจนจะต้องเผชิญกับหายนะใหญ่หลวงหากยังไม่เร่งหาทางปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและสร้างตำแหน่งงานภายในประเทศ เนื่องจากจำนวนประชากรใน 49 ประเทศที่ได้ชื่อว่า ยากจนที่สุดของโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนขึ้นจาก 858 ล้านคนในปี 2011 เป็นกว่า 1,700 ล้านคนภายในปี 2050 ขณะที่ประชากรช่วงอายุ 15-24 ปีในประเทศยากจนส่อเค้าเพิ่มจำนวนจาก 168 ล้านคนในปี 2010 เป็น 300 ล้านคนในปี 2050
