เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินอิตาลีลงมือค้นหาตามบ้านเรือนราษฎรบนเกาะซาร์ดิเนียแบบหลังต่อหลังในวันอังคาร(19) หลังจากดินแดนแถบนี้ต้องเผชิญน้ำท่วมฉับพลันจากอิทธิพลของไซโคลนเมเดเตอร์เรเนียนลูกหนึ่ง คร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้วอย่างน้อย 18 ศพและอีกหลายพันคนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่รัฐบาลก็ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยแล้ว
ในช่วงวิกฤตสุดของพายุที่ซัดถล่มเมื่อวันจันทร์(18) ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆทะลักล้นตลิ่ง เข้าซัดสะพานหลายแห่งจุดขาดและหักโค่นเสาไฟฟ้า ทำบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังจมอยู่ใต้บาดาล โดยในนั้นตามพื้นที่ราบต่ำถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
"เรากำลังค้นหาตามบ้านเรือนต่างๆ ภายในชั้นใต้ดิน โดยเฉพาะพวกที่อยู่ตามพื้นที่ราบต่ำ" จิอันฟรันโก กาลัฟฟู ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันพลเรือนท้องถิ่น บอกกับเอเอฟพี พร้อมเผยว่าจุดที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดคือบริเวณทางเหนือของเกาะ "มีหลายอย่างที่ต้องทำ ตอนนี้เรากำลังจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินอันแสนสาหัส"
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคาร(19) ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบนเกาะซาร์ดิเนีย และจัดสรรงบช่วยเหลือฉุกเฉิน 20 ล้านยูโร ส่วนรัฐบาลท้องถิ่นจัดเตรียมให้ 5 ล้านยูโร
ด้านอันเดรีย ออร์ลันโด รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่าอุทกภัยครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน "ชาวบ้านราว 2,700 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนและเข้าพักตามศูนย์พักพิงต่างๆหรือไปพักกับครอบครัว" ออร์ลันโดกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งแถลงปรับเพิ่มผู้เสียชีวิตจาก 17 เป็น 18 ศพ
คาดหมายว่าผู้คนจำนวนเล็กน้อย ราว 2 ถึง 4 คน ที่ยังสูญหาย โดยหน่วยกู้ภัยบอกว่าอาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในบ้านหรือรถยนต์ที่จมน้ำ พร้อมเผยว่ามีประชาชนราว 20,000 คนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่มีต้นตอจากพายุครั้งนี้
ทหารและบุคลากรของกองทัพเรือถูกส่งเข้าประจำการในพื้นที่ ขณะที่หน่วยกู้ภัยท้องถิ่นเผยว่าถนนที่ได้รับความเสียหายเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางปฏิบัติการของพวกเขาที่มีการใช้สุนัขดมกลิ่นเข้ามาช่วยเหลืออีกแรง
"เรากำลังพุ่งเป้าไปที่ปฏิบัติการสำคัญต่างๆ ทั้งปกป้องชีวิตมนุษย์ ช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่อาศัยและเคลียร์ถนนเพื่อเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย" นายกรัฐมนตรีเอ็นริโก เลตตา แถลงต่อผู้สื่อข่าว หลังประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรี
เมืองท่าโอลเบีย ดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูร้อน ซึ่งถูกกระแสน้ำซัดเมื่อวันจันทร์(18) โรงแรม อาคารกีฬาและบ้านพักส่วนตัว ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวของชาวบ้าน อย่างไรก็ตามในวันอังคาร(19) ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว
ชาวบ้านพากันคร่ำครวญด้วยความโกรธเคืองว่าไม่ได้รับคำเตือนอย่างเพียงพอต่อภัยพายุลูกนี้ แต่หน่วยป้องกันพลเรือนออกมาปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ระบุได้ประกาศเตือนภัยขั้นสีแดงหรือระดับสูงสุดล่วงหน้าแล้ว
ขณะเดียวกันภาวะฝนตกหนักและลมกระโชกแรงได้เบี่ยงเส้นทางมุ่งหน้าสู่แคว้นคาลาเบรียและคัมปาเนีย ทางภาคใต้ของอิตาลี โดยเจ้าหน้าที่เผยว่าพวกเขากำลังจับตาระดับน้ำของแม่น้ำไทเบอร์ในกรุงโรมอย่างใกล้ชิด
เหล่าผู้เชี่ยวชาญกล่าวโทษการก่อสร้างทางน้ำที่ไม่ถูกหลักและขาดการบำรุงรักษาสำหรับวิกฤตน้ำท่วมคราวนี้ และบอกว่าปัญหานี้ไม่ใช่เป็นแค่ในซาร์ดิเนีย แต่ทั่วประเทศก็ขาดการบริหารจัดการที่ดี "พื้นที่นี้บริหารจัดการได้ไม่ดี" เคลาดิโอ ราฟาเนลลี ผู้เชี่ยวชาญดานความเสี่ยงธรณีวิทยากล่าว "คุณไม่สามารถก่อสร้างบนที่ราบน้ำท่วมถึงและคุณจำเป็นต้องรักษาทางน้ำให้ไหลสะดวก เรื่องนี้เราล้าหลังมาก"