หลายพื้นที่ศรีสะเกษยังท่วมหนัก ถนนจมถูกตัดขาด นำเรือท้องแบนอพยพ ปชช.

ศรีสะเกษ - หลายพื้นที่ของ จ.ศรีสะเกษ ยังท่วมหนัก ถนนหลายสายจมใต้น้ำรถเล็กผ่านไม่ได้ และถูกตัดขาด จนท.เร่งซ่อมแซม พร้อมนำเรือท้องแบนเข้าอพยพ ปชช.ออกจากหมู่บ้านท่วมอ่วมหลายแห่งใน อ.ขุนหาญ จากพิษ “ฝายป่าอ้อ” แตกทะลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า ประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ไพรบึง อ.ขุนหาญ อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ ประสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทำให้น้ำจากเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชา ไหลทะลักลงมาน้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง ต้องพากันอพยพขนย้ายทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม และพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมไปอาศัยอยู่บนที่สูง

ขณะที่บริเวณสี่แยกหัวช้าง ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นถนนสายหลักมุ่งหน้าขึ้นสู่จ.อุบลราชธานี จ.สุรินทร์ และกรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ต้องช่วยกันเร่งให้การช่วยเหลือประชาชน

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ และถนนหลายสายนั้น ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนในเขต อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ อ.ไพรบึง และ อ.ขุขันธ์ ยังคงมีมวลน้ำไหลลงมาจากเขื่อนห้วยติ๊กชู และเขื่อนห้วยศาลาที่มีการระบายน้ำลงมา แต่ระดับน้ำยังไม่สูงมากนัก ซึ่งตนได้ให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบน้ำท่วมอย่างเต็มที่ และได้สั่งการ นายสุขสันต์ บุญโทแสง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และรายงานเหตุการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือมีผู้เสียชีวิต จากน้ำท่วมครั้งนี้แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ขุนหาญ หลังจากฝายป่าอ้อ บ้านตานวน ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แตกเป็นช่องขนาดใหญ่ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) นั้น ล่าสุด วันนี้ระดับน้ำได้เริ่มลดลงบางส่วนแล้ว โดยหลายหมู่บ้านในเขตพื้นที่ อ.ขุนหาญ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบนมาเพื่ออพยพชาวบ้านออกจากหมู่บ้าน

ที่บริเวณบ้านตานวน ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าจากการที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องได้ทำให้น้ำจากเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชา ไหลทะลักเข้าไปท่วมไร่นา บ้านเรือนของชาวบ้านในเขต ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนหลายสายที่เข้าสู่ตัว อ.ขุนหาญ น้ำได้ท่วมถนนขาดเป็นช่วงๆ ระดับน้ำสูงทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านเข้า-ออก อ.ขุนหาญได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณถนนสายขุนหาญผ่านบ้านพรานไปยังเขต อ.กันทรลักษ์ น้ำได้ท่วมถนนสูงมาก ทำให้ประชาชนต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน

ขณะที่บ้านห้วย ต.สิ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเส้นทางจาก อ.ขุนหาญ ไป อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คอสะพานที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กได้ทรุดตัวลงทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ อีกทั้งบริเวณสี่แยกต้นมันปลาไปถึงบ้านห้วย ระดับน้ำยังคงท่วมสูงทำให้รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้เช่นกัน

ส่วนที่ในเขต ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และชาวบ้านต้องเร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทรายเพื่อนำไปซ่อมแซมสะพานที่ชำรุดได้รับความเสียหาย หลังจากที่เส้นทางบริเวณบ้านโคกตาล มุ่งหน้าไปอ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ ได้ถูกน้ำซัดเส้นทางขาด ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้

ขณะที่สำนักงานเทศบาลตำบลขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายสิริดนย์ น้าวิไลเจริญ นายก เทศมนตรีเทศบาล ต.ขุนหาญ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่จัดเตรียมถุงยังชีพไว้ จำนวน 200 ชุด เพื่อเตรียมพร้อมนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาล ต.ขุนหาญ พร้อมทั้งได้จัดตั้งทีมไว้คอยช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงกระสอบทรายที่ได้แจกจ่ายให้ชาวบ้านไปแล้ว พร้อมได้แจ้งไปยังพี่น้องประชาชนขอให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมเพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ขณะนี้