อำเภอเมืองกาญจนบุรี เตือน ปชช.ริมฝั่งแม่น้ำเก็บของขึ้นสู่ที่สูง

กาญจนบุรี - น้ำซัดคอสะพานหินแท่นขาด 6 เมตร ปริมาณน้ำยังทรงตัวที่ 5 เมตรกว่า พืชเกษตรถูกน้ำท่วม เกือบ 2 หมื่นไร่ มวลน้ำเริ่มทะลักลงสู่แม่น้ำแควน้อย มุ่งหน้าอำเภอเมืองกาญจนบุรี เตือน ปชช.ริมฝั่งแม่น้ำเก็บของขึ้นสู่ที่สูง

ผู้สื่อข่าวรายความคืบหน้ากรณี พายุไห่เยี่ยน ถล่มพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 8 พ.ย.56 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลหนองไผ่ ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ได้ผลัดเปลี่ยนเวรยามเฝ้าระวังภัยกันตลอด 24 ชั่วโมง

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (10 พ.ย.) นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ถนนสายหลักจากอำเภอด่านมะขามเตี้ย มุ่งหน้าสู่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี น้ำที่เคยท่วมขังผิวการจราจรจาก 1 เมตร ลดลงเหลือประมาณ 50-60 เมตร โดยเฉพาะหลักกิโลเมตรที่ 44 ถึง หลักกิโลเมตรที่ 49 รถทุกชนิดยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ต้องใช้เส้นทางเบี่ยงแทน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมสูง 3-4 เมตร บางพื้นที่ท่วมสูงถึง 5 เมตร ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมทั้งหมด บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วม ทำให้ทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนเสียหาย สะพานหินแท่น ข้ามแม่น้ำลำภาชี จุดติดตั้งศูนย์วัดระดับน้ำ เขตติดต่อระหว่าง หมู่ 1 และหมู่ 3 ต.หนองไผ่ ถูกกระแสน้ำพัดคอสะพานขาดยาวประมาณ 5-6 เมตร

ส่วนพื้นที่ตำบลด่านมะขามเตี้ย ล่าสุด ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับ นายระพล รัตนวงษ์ชัยโย นายก อบต.ด่านมะขามเตี้ย และเจ้าหน้าที่ ปภ.ด่านมะขามเตี้ย พบว่า ปริมาณน้ำท่วมขังสูง 4-5 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 5 หมู่ 7 และหมู่ 10 ส่วนอีก 7 หมู่บ้าน น้ำท่วมขังเล็กน้อย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 1,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ส่วนพืชผักอายุสั้น เช่น ผักชี ผักคะน้า หน่อไม่ฝรั่ง เป็นต้น ถูกน้ำท่วมขังเสียหายทั้งหมด

ส่วนบ้านเรือราษฎรถูกน้ำท่วมประมาณ 200 หลังคาเรือน บางพื้นที่ไม่สามารถใช้รถยนต์เข้าไปได้ ต้องใช้เรือท้องแบนเข้าไปอพยพประชาชนออกมา โดยภายใน อบต.ด่านมะขามเตี้ย เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเต็นท์ทำโรงครัว และเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยชั่วคราว ส่วนชาวบ้านบางพื้นที่นำเต็นท์มากางบนท้องถนนเพื่อเป็นที่หลับนอนชั่วคราว

นายจำรัส กังน้อย เปิดเผยต่อว่า “ปัจจุบันปริมาณน้ำจากพื้นที่ตำบลหนองไผ่ และตำบลด่านมะขามเตี้ย ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลตำบลด่านมะขามเตี้ย และเอ่อล้นมาจากแม่น้ำลำภาชี ทำให้เส้นทางจากเทศบาลด่านมะขามเตี้ย มุ่งหน้าสู่บ้านท่าพุ หมู่ 4 ต.ด่านมะขามเตี้ย ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และพบว่าปริมาณน้ำได้ขยายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ตามแนวแม่น้ำลำภาชี ที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย” นายจำรัส เผย

ด้านนายจักรภพ จันทร์เพ็ญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ปภ.นำเรือท้องแบน จำนวน 7 ลำ เข้าไปช่วยเหลืออพยพราษฎร และนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ติดค้างอยู่ภายในบ้านเรือน โดยไม่ขออพยพออกมา เนื่องจากต้องการเฝ้าทรัพย์สินที่มีอยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารจากจังหวัดทหารบก นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือหน่วยงานละ 1 ลำ ส่วนปริมาณน้ำได้แผ่เข้าท่วมขยายเป็นบริเวณกว้าง จากปริมาณน้ำที่ท่วมสูง จึงยังไม่สามารถเข้าสำรวจความเสียหายได้

ส่วนสะพานหินแท่น จุดตั้งศูนย์วัดระดับน้ำ ได้ถูกกระแสน้ำพัดคอสะพานขาดนั้น เบื้องต้นได้ประสานไปที่สำนักงานทางหลวงชนบทราชบุรี รบ.4011 ที่รับผิดชอบถนนต่างๆ ในพื้นที่ทั้งหมดให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนแล้ว ล่าสุด อยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อนำอุปกรณ์มาซ่อมแซมสะพานชั่วคราว

ส่วนการจราจรยังคงปิดเส้นทางไว้ชั่วคราว ส่วนงบประมาณช่วยเหลือเบื้องต้นใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งเพื่อประกอบอาหาร และสำหรับซื้อน้ำดื่มนำมาแจกจ่ายประชาชน หากไม่เพียงพอทางอำเภอมีงบสำรองฉุกเฉิน 5 แสนบาท คาดว่าคงเพียงพอต่อความต้องการ

นอกจากนี้ จังหวัดกาญจนบุรี ยังมีงบประมาณฉุกเฉินอีก 20 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายค่าชดเชยเกี่ยวกับความเสียหายของพืชสวนการเกษตร และชดเชยค่าเสียหายของทรัพย์สิน และบ้านเรือน หากสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ จึงจะสามารถเข้าสำรวจพื้นที่ทั้งหมดได้

นอกจากนี้ ทาง ปภ.ฝากเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งของแม่น้ำแควน้อย ให้อพยพทรัพย์สินขึ้นไปอยูที่สูงด้วย เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย ได้ไหลลงสู่แม่น้ำเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ โดยเฉพาะร้านอาหาร และรีสอร์ตต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ให้เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ