ประจวบคีรีขันธ์ - ทหารค่ายธนะรัชต์ พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.บึงนคร และชาวบ้านระดมค้นหาผู้สูญหายที่รถยนต์ตกลงไปในแม่น้ำปราณบุรี เป็นวันที่ 2 แล้ว พบเพียงรถยนต์เท่านั้น ส่วนที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ พบแล้วร่างผู้สูญหายเสียชีวิตติดอยู่กับต้นไม้ริมแม่น้ำปราณ ส่วนนายก อบต.บึงนคร วอนของให้รัฐบาล และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งกู้สถานการณ์ และซ่อมแซมถนน ฝาย ให้ชาวบ้านได้เข้าออกหมู่บ้าน เพราะหากชาวบ้านเกิดโรคภัยไข้เจ็บ การส่งไปรักษาในโรงพยาบาลตัวเมืองจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเป็นห่วงด้วยว่าหากเกิดฝนตกหนักซ้ำลงมาอีกระลอก จะยิ่งทำให้สถานการณ์ยิงหนักขึ้นอีก ซึ่งความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ เบื้องต้นสรุปตายแล้ว 2 ราย สูญหายอีก 1 รายที่ตำบลบึงนคร
เมื่อเวลา 23.00 น. คืนวันที่ 9 พ.ย.56 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าความเสียหายหลังจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งทำให้ฝนตกตลอดทั้งคืนในวันที่ 8 พ.ย.56 ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ผ่านมานั้น โดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอกที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาทางทิศตะวันตก ทั้งที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ และตำบลบึงนคร จำนวน 23 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 4,000 คนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเส้นทางเข้าออกในหมู่บ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นถนน สะพาน ฝาย ซึ่งถูกน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลทะลักลงสู่แม่น้ำปราณบุรี สร้างความเสียหายอย่างหนักในครั้งนี้นั้น และมีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบึงนคร ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ถูกกระแสน้ำพัดหายไปจำนวน 3 รายนั้น
ต่อมา นายเสริม เต็มฟอม นายก อบต.บึงนคร ได้นำคณะ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายปรีดา สุขใจ ป้องกันจังหวัด ปลัดอำเภอหัวหิน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เจ้าหน้าที่สถานีกาชาดเฉลิมพระเกียรติ หัวหิน พร้อมทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ เดินทางไปยังบริเวณฝายตำบลบึงนคร จุดที่ชาวบ้านขับรถยนต์พลัดตกลงไป ซึ่งใช้เวลาเดินทางเข้าไปในพื้นที่ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเส้นทางเข้าหมู่บ้านได้รับความเสียหาย และต้องขับรถอ้อมเข้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลานาน
โดยจุดที่ฝายรถยนต์ตกลงไปในแม่น้ำปราณบุรี บริเวณดังกล่าวมีชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ อบต.บึงนคร และทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ได้ระดมออกค้นหาร่างชาวบ้านที่สูญหาย โดยนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้พูดคุยกับนายสนั่น ดวงอำพร 1 ในผู้รอดชีวิต เล่าว่า ผู้ที่สูญหายคือ นางสมคิด ดวงอำพร อายุ 42 ปี ภรรยาของตนเอง
ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเมื่อเย็นวานนี้นั้น เป็นเจ้าของไร่สับปะรด คือ นางนิฐิกานต์ ไทอุดมทรัพย์ อายุ 52 ปี ซึ่งมีไร่สับปะรดอยู่ที่บ้านบึงนคร โดยนายสนั่น เล่าว่า ตนเองนั่งคู่มากับนางนิฐิกานต์ ซึ่งเป็นคนขับ ส่วนลูกชายตนเองวัย 16 ปี นั่งมาแค็บหลังกับภรรยา โดยจะเดินทางไปงานศพพ่อตาแต่เมื่อขับผ่านฝายจุดดังกล่าวไปแล้ว ปรากฏว่าไปไม่ได้เนื่องจากเส้นทางขาด นางนิฐิกานต์ จึงหันมาใช้เส้นทางขับผ่านฝาย แต่ก็ถูกกระแสน้ำป่าซัดรถยนต์ลงไปในแม่น้ำ ตนเองจึงเปิดประตูรถออกมารวมทั้งลูกชาย
ระหว่างนั้นรถยนต์ถูกกระแสน้ำพัดไป จนตนเองกับลูกชายเอาตัวรอดมาได้ และระหว่างนั้นเมื่อกลับขึ้นมาก็เห็น นางนิฐิกานต์ ออกมาจากรถยนต์แล้วเกาะต้นไม้ร้องขอความช่วยเหลือ เป็นเวลาเดียวกับที่มีซากต้นไม้ไหลมาเป็นจำนวนมาก และปะทะกับนางฐิติกานต์ จนจมลงไปบริเวณดังกล่าว ส่วนภรรยาของตนเองก็ยังไม่พบอีกเลย วันนี้พบเพียงเสื้อคลุมของภรรยาเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ค้นหาเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตลอดทั้งวันออกค้นหาก็พบเพียงรถยนต์โตโยต้าสีเขียวตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บฉ 414 เพชรบุรี ตกอยู่ในแม่น้ำ เจ้าหน้าที่จึงใช้รถแทร็กเตอร์นำสลิงผูกและลากขึ้นมาเก็บไว้ซึ่งสภาพพังเสียหายอย่างยับเยิน แต่ก็ยังไม่พบ นางสมคิด ถึงแม้การค้นหาเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระยะทาง 2 กิโลเมตร จนกระทั่งค่ำเจ้าหน้าที่ต้องยุติการค้นหาเนื่องจากเป็นช่วงมืด
ด้านนายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ มูลนิธิหน่วยกู้ภัยเพชรเกษม ฯลฯ เดินทางไปยังตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ โดยมีนางสุนันทา พิมพ์ไทย นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ นำคณะทั้งหมดออกค้นหาชาวบ้านป่าละอูน้อย ที่ถูกกระแสน้ำป่าพัดหายไปนั้น โดยเจ้าหน้าที่กระจายการค้นหาตามแม่น้ำปราณจุดต่างๆ จนกระทั่งพบร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ในกอไม้ริมแม่น้ำทราบชื่อคือ นายวุฒิชัย ทองสุข ท่ามกลางความเสียใจของบรรดาญาติ และชาวบ้าน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมคณะยังออกสำรวจความเสียหายพบว่า ในพื้นที่ตำบลบึงนคร สภาพความเสียหายอย่างหนักถึงแม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำปราณ จะลดระดับลงบ้างก็ตาม แต่เส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรก็ยังคงถูกตัดขาด โดยเฉพาะบ้านเรือนชาวบ้าน 15 หลังคาเรือน ที่อยู่ริมเขื่อนปราณบุรี บริเวณบ้านเนินพะยอม ตำบลบึงนคร ซึ่งตอนท้ายของเขื่อนปราณบุรี ได้ถูกน้ำท่วมมิดหลังคา ซึ่งเบื้องต้นได้ให้ชาวบ้านอพยพออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
พร้อมกันนั้น ยังได้นำชุดธารน้ำใจจากสภากาชาดไทย 100 ชุด ไปมอบให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับคามเดือดร้อนในเบื้องต้นที่ สำนักงาน อบต.บึงนคร ก่อน ซึ่งส่วนที่เหลือจะเดินทางนำสิ่งของมามอบให้แก่ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ทั้ง ต.บึงนคร และ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ต่อไปในวันนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากบางหมู่บ้านยังไม่สามารถเข้าไปได้
อย่างไรก็ตาม นายเสริม เต็มฟอม นายก อบต.บึงนคร กล่าวยอมรับว่า ความเสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจไม่ว่าจะเป็นถนน สะพาน ฝาย เสียหายจนใช้การไม่ได้ พื้นที่ทางการเกษตร รวมทั้งบ้านเรือน เนื่องจากทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อบต.เองก็ประสบอุทกภัยเช่นกัน
ในวันนี้ ตนเองจะนำรถแบ็กโฮมาทำการนำซากต้นไม้ต่างๆ ที่ถูกกระแสน้ำพัดมากองอยู่ในบริเวณแม่น้ำปราณ ออกให้หมดเพื่อจะตรวจสอบว่าร่างของผู้สูญหายจะติดอยู่ในซากต้นไม้หรือไม่อย่างใด โดยที่หลายหน่วยงานในวันนี้ก็จะมาช่วยกันค้นหาอีก
เบื้องต้นตอนนี้ความเสียหายอย่างหนักที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลบึงนครจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี และต้องยอมรับว่าสิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการมากที่สุดคือ เส้นทางเข้าออก เพราะตอนนี้หากไม่มีเส้นทางเข้าออก และการซ่อมแซมที่รวดเร็วนั้นสิ่งที่เป็นห่วง คือ ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยในพื้นที่จะไม่สามารถออกไปหาหมอในตัวเมืองได้ทันท่วงที
“วันนี้ผมจึงอยากฝากวิงวอนไปยังทุกท่าน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงรัฐบาลในส่วนกลางโปรดได้เร่งเข้ามาช่วยเหลือกู้สถานการณ์ให้แก่ชาวบ้านตำบลบึงนครด้วย” โดยเฉพาะไฟฟ้าที่นี่ก็ไม่มีใช้ ต้องใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งยังต้องใช้วิทยุรับส่งแทนโทรศัพท์มือถือในช่วงที่เกิดอุทกภัย