เอเอฟพี – ประเทศต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางจะต้องการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ หากอิหร่านได้รับอนุญาตให้พัฒนาระเบิดปรมาณูได้ ประธานาธิบดี ชิมอน เปเรส แห่งอิสราเอล บอกกับหนังสือพิมพ์เจ้าหนึ่งของฝรั่งเศสก่อนเข้าร่วมประชุมกับประธานาธิบดีแดนน้ำหอมในวันนี้ (17 พ.ย.)
เปเรส กล่าวว่า เขารู้สึกซาบซึ้งที่ฝรั่งเศสแสดงจุดยืนอันหนักแน่นในการเจรจาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน เรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยกล่าวเสริมว่า นานาชาติไม่ควร “ยอมอ่อนข้อ” ในการใช้มาตรการกดดันเตหะราน
“เรามั่นใจว่าหากอิหร่านสามารถผลิตระเบิด (ปรมาณู) ได้ทุกประเทศในตะวันออกกลางก็จะรู้สึกอยากทำตาม” ประธานาธิบดีของอิสราเอลให้สัมภาษณ์ “เลอ ชูร์นาล ดู ดีมองช์” หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของฝรั่งเศส
ทั้งนี้ เปเรส มีกำหนดเข้าร่วมหารือกับประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ในวันนี้ (17) ซึ่งเป็นวันแรกที่ประธานาธิบดีแดนน้ำหอมเดินทางมาเยือนอิสราเอลเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่บรรดาชาติตะวันตกกำลังพยายามกันอีกครั้งในการจำกัดตัดลดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ฝ่ายตะวันตกต่างคัดค้าน
การที่เขาออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ ถือเป็นการตอกย้ำสิ่งที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ออกมาเรียกร้องในการให้สัมภาษณ์วานนี้ (16) ว่าต้องการให้ฝรั่งเศสแสดงจุดยืนที่หนักแน่น ในการเจรจาระหว่างประเทศ
อิสราเอล และบรรดาชาติมหาอำนาจกำลังตั้งข้อสงสัย ต่อโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่า เป็นแผนการมุ่งผลิตอาวุธนิวเคลียร์อย่างลับๆ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ รัฐบาลเตหะรานออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวกว่าชาติตะวันตกอื่นๆ ในการเจรจาที่นครเจนีวาเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งหาทางออกให้กับปัญหาที่แก้ไม่ตกเช่นนี้
พวกยึดแนวทางแข็งกร้าวในอิหร่านต่างกล่าวโทษฝรั่งเศสว่า เป็นผู้บ่อนทำลายโอกาสที่จะสามารถทำข้อตกลง ที่รับประกันว่า หากเตหะรานไม่สร้างอาวุธนิวเคลียร์ ชาติตะวันตกก็จะยอมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อเศรษฐกิจอิหร่าน ซึ่งกำลังประสบภาวะย่ำแย่ในขณะนี้
ทางด้านอิสราเอล ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันอย่างกว้างขวางว่า เป็นชาติในตะวันออกกลางเพียงชาติเดียวที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ได้ออกมากล่าวเตือนอยู่เรื่อยๆ ว่าบรรดาพันธมิตรชาติตะวันตกอ่อนข้อให้อิหร่านมากเกินไป
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมการเจรจา P 5+1 กับอิหร่านนั้น ประกอบไปด้วย ชาติสมาชิกถาวรจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่าง อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ บวกกับอีกหนึ่งชาติ คือ เยอรมนี โดยการหารือกันครั้งต่อไปนั้นจะมีขึ้นที่นครเจนีวา ในสัปดาห์หน้า