xs
xsm
sm
md
lg

ฟิลิปปินส์ประกาศใช้ภาวะภัยพิบัติ ภารกิจบรรเทาทุกข์ ‘ไห่เยี่ยน’ ทุลักทุเล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online





เอเจนซีส์ - ปฏิบัติการกู้ภัยบรรเทาทุกข์ในฟิลิปปินส์ที่เสียหายย่อยยับจากมหาพายุไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ยังคงเต็มไปด้วยความทุลักทุเลในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ท่ามกลางร่างผู้เสียชีวิตที่ยังกลาดเกลื่อนบนท้องถนนนับไม่ถ้วน ขณะที่ผู้รอดชีวิตร้องขออาหาร น้ำ และยา ส่วนตำรวจทหารต้องร่วมกันลาดตระเวนป้องกันการฉกชิงของคนที่เดือดร้อนและนักฉวยโอกาส และรัฐบาลต้องประกาศภาวะภัยพิบัติทั่วประเทศ ขณะเดียวกันความช่วยเหลือจากนานาชาติเริ่มทยอยเดินทางไปถึง

สามวันหลังจากที่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน นำเอาคลื่นสูงและลมกระโชกรุนแรง พัดกวาดผ่านย่านอาศัยของเมืองใหญ่และเมืองเล็กเมืองน้อยหลายแห่งในบริเวณภาคกลางของฟิลิปปินส์ จนราบไปทั้งย่านทั้งเมือง ทิ้งซากศพผู้เสียชีวิตเหลือคณานับกระจัดกระจายไปตามผืนดินที่กลายเป็นแดนร้าง ความรู้สึกสิ้นหวังก็กำลังเข้าเกาะกุมชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในสภาพพินาศยับเยิน และขาดไร้ทั้งอาหาร น้ำ และยารักษาโรค

ในคืนวันจันทร์ ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ออกโทรทัศน์ประกาศภาวะภัยพิบัติทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจเข้าควบคุมราคาสินค้าและเบิกจ่ายเงินงบประมาณฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10) เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์สองคนระบุประมาณการว่า ผู้เสียชีวิตจากพายุไห่เยี่ยนน่าจะสูงเกิน 10,000 คน ทว่าความพยายามในการกู้ภัยคราวนี้ดูจะเป็นภาระใหญ่โตเกินกว่าที่แดนตากาล็อกจะแบกรับไหว และมีความคืบหน้าไปได้อย่างเชื่องช้า ท่ามกลางระบบสื่อสารและการคมนาคมขนส่งที่ยังเป็นอัมพาต ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดยังมีเพียง 942 รายเท่านั้น

ตาโกลบาน เมืองเอกของจังหวัดเลย์เต ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่เผชิญกับฤทธิ์เดชของไต้ฝุ่นลูกนี้อย่างหนักหน่วงสาหัสที่สุด ยังคงมีสภาพไม่ต่างจากกองขยะมหึมา มีเพียงอาคารคอนกรีตไม่กี่แห่งที่ยังตั้งตระหง่านอยู่ได้

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เผยว่า ประชาชนอย่างน้อย 2 ล้านคน ใน 41 จังหวัดได้รับผลกระทบจากไห่เยี่ยน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดเท่าที่แดนตากาล็อกเคยพบมา และมีแนวโน้มเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในฟิลิปปินส์

ทหารเรือฟิลิปปินส์ออกตระเวนแจกจ่ายอาหารและน้ำในตาโกลบาน ขณะที่ทีมประเมินความเสียหายจากสหประชาชาติ และหน่วยงานบรรเทาทุกข์นานาชาติเดินทางถึงพื้นที่ประสบภัยครั้งแรก ส่วนกองทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ลำเลียงอาหาร น้ำ เครื่องปั่นไฟ มาช่วยเหลือเมืองนี้ ซึ่งถือเป็นความช่วยเหลือระลอกแรกที่กำลังจะตามมาด้วยปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากทั้งถนน สนามบิน สะพาน ประสบความเสียหายหรือจมอยู่ใต้ซากปรักหักพัง นอกจากนี้ยังคาดว่า จะมีฝนตกหนักจากพายุดีเปรสชันโซนร้อนในแถบพื้นที่ประสบภัยในวันอังคาร (12) ทำให้การเข้าถึงเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตยากลำบากยิ่งขึ้น

มีรายงานว่า ถึงแม้ทางการตากาล็อกได้เตรียมการรับมือด้วยการอพยพประชาชนราว 800,000 คนก่อนที่ไต้ฝุ่นจะมาถึง แต่ศูนย์อพยพหลายแห่งซึ่งส่วนใหญ่คือโรงเรียน โบสถ์ และอาคารราชการ ไม่สามารถต้านทานพายุฝนและน้ำทะเลที่ขึ้นสูงกะทันหันหลายเมตรได้ ประชาชนมากมายจึงจมน้ำหรือถูกกระแสน้ำพัดพากระจัดกระจาย เช่นเดียวกับรถที่ถูกพัดออกสู่ทะเล ขณะที่เรือขึ้นมาเกยตื้น สะพานและท่าเรือเสียหายยับเยิน บนบกเต็มไปด้วยซากปรักหักพังกีดขวางการจราจร และร่างผู้เสียชีวิตกลาดเกลื่อนทั้งบนพื้นดินและใต้ซากสิ่งปลูกสร้าง

ทางด้านผู้รอดชีวิตก็กำลังป่วยด้วยอาการท้องร่วงตลอดจนขาดน้ำและอาหาร พวกที่ยังแข็งแรงพอก็มีหลายคนออกฉกชิงอาหาร น้ำ และสิ่งของอุปโภคบริโภคจากห้างร้านหรือแม้แต่บ้านเรือนมาประทังชีวิต อย่างไรก็ดี มีบางคนปล้นมากกว่าสิ่งของจำเป็นอย่างเช่น ทีวี ตู้เย็น และเครื่องออกกำลังกาย จนทางการต้องเร่งส่งกองกำลังพิเศษและทหารหลายร้อยคน ออกลาดตระเวนในตัวเมืองอย่างตาโกลบาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุจลาจลวุ่นวาย

ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนขึ้นบกในฟิลิปปินส์ที่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8) และจู่โจมทั่วพื้นที่ภาคกลางของประเทศอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วลม 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแรงกระโชก 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความเสียหายรุนแรงให้เกาะอย่างน้อย 6 เกาะ ที่หนักที่สุดคือเลย์เต ซามาร์ และทางตอนเหนือของเกาะเซบู

อย่างไรก็ดี ไห่เยี่ยนอ่อนกำลังลงเหลือเพียง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะขึ้นบกทางเหนือของเวียดนามเมื่อเช้าวันจันทร์ (11) และไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงหรือผู้บาดเจ็บ นอกเหนือไปจากผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคนระหว่างที่ทางการอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไต้ฝุ่นลูกนี้ยังลดระดับเป็นเพียงพายุโซนร้อนขณะเข้าสู่จีนช่วงเย็นวันจันทร์ โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะทำให้เกิดฝนตกหนักมากตลอด 24 ชั่วโมงทางใต้ของประเทศ และทางการเขตปกครองตนเองกว่างซีแนะนำให้ชาวประมงงดออกจากฝั่ง

กำลังโหลดความคิดเห็น