xs
xsm
sm
md
lg

โรงเรียนเอกชนปากีฯแบนอัตชีวประวัติ “มาลาลา” เหตุมีเนื้อหาต่อต้าน “ชาติ-อิสลาม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มาลาลา ยูซาฟไซ วัย 16 ปี
เอเอฟพี - สมาพันธ์โรงเรียนเอกชนปากีสถานสั่งห้ามโรงเรียนทุกแห่งในสังกัดซื้ออัตชีวประวัติของ มาลาลา ยูซาฟไซ เข้าห้องสมุด เนื่องจาก “มีเนื้อหาต่อต้านปากีสถานและศาสนาอิสลาม” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปากีสถานแถลงวานนี้ (10)

คอชีฟ มีร์ซา ประธานสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนปากีสถาน ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า “เราได้สั่งห้ามโรงเรียนทุกแห่งซื้อหนังสือ “I am Malala” ของมาลาลา ยูซาฟไซ เพราะมีเนื้อหาที่ขัดต่ออุดมการณ์ของชาติ และหลักคุณธรรมของศาสนาอิสลาม”

มาลาลา วัย 16 ปี ถูกกลุ่มติดอาวุธตอลิบานดักยิงศีรษะในปากีสถาน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมปีที่แล้ว เนื่องจากไม่พอใจที่เธอตำหนิการกระทำของตอลิบาน และยังเรียกร้องให้สิทธิทางการศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิง

“เราไม่ได้ต่อต้านมาลาลา เธอยังเป็นลูกสาวของเรา แต่เธอมีความสับสนในการเขียนหนังสือ พ่อของเธอต้องขอให้ทางสำนักพิมพ์นำเนื้อความที่เกี่ยวข้องกับ ซัลมาน รุชดี ออก และขอให้ใส่คำว่า “ขอสันติจงมีแด่ท่าน” ไว้ข้างหลังพระนามของท่านนบีมูฮัมมัดด้วย” มีร์ซากล่าว

ซัลมาน รุชดี เป็นนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษซึ่งถูกองค์กรอิสลามในอิหร่านฟัตวา (ตัดสินชี้ขาด) ให้ถูกตามล่าเอาชีวิต หลังจากที่เขาแต่งหนังสือ “The Satanic Verses” ซึ่งมีเนื้อหาจาบจ้วงอิสลามและศาสดามูฮัมหมัด

ทั้งนี้ การดูหมิ่นอิสลามถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อนยิ่งในปากีสถาน และมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต

มีร์ซาระบุว่า โรงเรียนเอกชน 152,000 แห่งทั่วปากีสถานต่างก็เอาใจช่วยมาลาลา หลังทราบข่าวว่าเธอถูกกลุ่มตอลิบานดักยิงศีรษะในจังหวัดสวัดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ แต่สิ่งที่เธอแสดงออกผ่านอัตชีวประวัตินั้น “ไม่อาจยอมรับได้”

“จะไม่มีโรงเรียนใดซื้อหนังสือ I am Malala เข้าห้องสมุด หรือใช้ในการเรียนการสอนทุกรูปแบบ” มีร์ซา กล่าว พร้อมยืนยันว่า ทางสมาพันธ์ไม่ได้ถูกกลุ่มตอลิบานข่มขู่หรือกดดันให้แบนหนังสือของ มาลาลา เหมือนเช่นที่ร้านหนังสือหลายแห่งในปากีสถานโดนมาแล้ว

มาลาลา และผู้สื่อข่าวหญิงชาวอังกฤษ คริสตินา แลมบ์ ได้ร่วมกันเรียบเรียงหนังสือ “I am Malala: The Girl Who Stood Up for Education and was Shot by the Taliban” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวระทึกขวัญขณะที่มือปืนตอลิบานบุกขึ้นไปบนรถโรงเรียน และลั่นกระสุนใส่ศีรษะของ มาลาลา อย่างโหดเหี้ยม เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ปี 2012

หนังสือเล่มนี้ยังบรรยายชีวิตของมาลาลาขณะอาศัยอยู่ที่หุบเขาสวัดภายใต้อิทธิพลอันป่าเถื่อนของกลุ่มตอลิบานเมื่อช่วงกลางทศวรรษ 2000 รวมถึงความฝันของเธอที่จะเป็นนักการเมืองเพื่อปกป้องบ้านเกิด

เดือนที่แล้ว มาลาลาออกมาปฏิเสธเสียงโจมตีที่ว่าเธอกลายเป็น “หุ่นเชิดของตะวันตก” ไปแล้ว โดยยืนยันว่ายังภูมิใจเสมอที่เกิดมาเป็นชาวปากีสถาน

กำลังโหลดความคิดเห็น