องค์การนิรโทษกรรมสากลมอบรางวัลเกียรติยศสูงสุดแก่ “มาลาลา ยูซาฟไซ”

เอเอฟพี – องค์การนิรโทษกรรมสากลประกาศมอบรางวัลเกียรติยศขั้นสูงสุดแก่ มาลาลา ยูซาฟไซ เด็กสาวชาวปากีสถานที่ถูกกลุ่มตอลิบานดักยิงศีรษะจนบาดเจ็บสาหัสเมื่อปีที่แล้ว เพราะไม่พอใจที่เธอออกมาเรียกร้องสิทธิในการศึกษาของเด็กผู้หญิงในปากีสถาน

มาลาลา จะได้รับรางวัล Ambassador of Conscience Award ประจำปี 2013 จากองค์การนิรโทษกรรมสากล ร่วมกับศิลปินและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวอเมริกัน แฮร์รี เบลาฟอนเต

พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่กรุงดับลิน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ในวันนี้(17) โดยมี โบโน ศิลปินเพลงร็อคชาวไอริช เป็นผู้แทนมอบรางวัลเกียรติยศดังกล่าว ซึ่งยกย่อง “บุคคลที่ส่งเสริมและพัฒนากิจการด้านสิทธิมนุษยชน โดยการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง”

“ผู้ได้รับรางวัล Ambassador of Conscience ของเราทั้ง 2 คนแตกต่างกันหลายด้าน ทว่าพวกเขาทั้งคู่ล้วนต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในทุกสถานที่และเพื่อคนทุกคน... มาลาลา และ แฮร์รี มีความเป็น Ambassador of Conscience อย่างแท้จริง เพราะพวกเขาเรียกร้องเพื่อสิทธิสากล, ความยุติธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยังเป็นแรงบันดาลใจต่อผู้คนจำนวนมาก ” ซาลีล เช็ตตี เลขาธิการองค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ

เดือนตุลาคมปีที่แล้ว มาลาลา ถูกสมาชิกกลุ่มตอลิบานดักยิงศีรษะบนรถโรงเรียน ซึ่งเป็นการลอบทำร้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เรียกเสียงประณามจากคนทั่วโลก เธอถูกส่งตัวไปอังกฤษเพื่อผ่าตัดรักษาบาดแผลที่ศีรษะ และได้รับโอกาสเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนในนครเบอร์มิงแฮม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

เด็กสาววัย 16 ปีบอกว่า เธอรู้สึก “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ที่ได้รับรางวัลนี้

“ดิฉันขอใช้โอกาสนี้ย้ำเตือนให้ทุกท่านทราบว่า ยังมีเยาวชนอย่างดิฉันอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่กำลังต่อสู้อยู่ทุกวันเพื่อจะได้มีโอกาสเล่าเรียน... ด้วยความร่วมมือของเรา ดิฉันหวังว่าวันหนึ่งเราจะบรรลุความฝันที่จะให้การศึกษากับเด็กทุกคนในทั่วทุกมุมโลก”

ด้าน เบลาฟอนเต ซึ่งเป็นชาวอเมริกันผิวสีคนแรกที่ได้รับรางวัล Emmy Award ก็ได้กล่าวยกย่องเด็กหญิงชาวปากีสถานที่ได้รับรางวัลเกียรติยศคู่กับเขาในปีนี้

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Ambassador of Conscience ในปีนี้ เพราะเป็นความพิเศษที่ได้แชร์รางวัลร่วมกับ มาลาลา ยูซาฟไซ ซึ่งถือเป็นวีรสตรีตัวจริงในยุคเรา”

“ความรู้สึกชื่นชมที่ผมมีต่อเธอนั้นหาที่สิ้นสุดไม่ได้ เธอปลุกคนทั่วโลกให้ตื่นและลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจกดขี่ ด้วยเหตุนี้ผมจึงรู้สึกซาบซึ้งในการกระทำของเธออย่างมาก”