เอเจนซีส์ - มาลาลา ยูซาฟไซ นักรณรงค์ด้านการศึกษาชาวปากีสถาน ซึ่งรอดตายจากการพยายามถูกสังหารของกลุ่มตอลิบาน โดยถูกยิงเข้าที่ศีรษะทางด้านซ้ายในขณะที่เธอและเพื่อนโดยสารรถรับส่งนักเรียนกลับบ้าน ฉลองอายุครบ 16 ปีของเธอ ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ในสมัชชาเยาวชนโลกที่ยูเอ็น เรียกร้องให้ผู้นำของชาติต่างๆ หันมาปกป้องสิทธิการเท่าเทียมและด้านการศึกษาให้กับเด็กผู้หญิงในปากีสถาน ในวันศุกร์ (12) ที่ผ่านมา
มาลาลา ยูซาฟไซ วัย 16 ปี ขึ้นแสดงสุนทรพจน์ที่สมัชชาเยาวชนโลก ซึ่งเป็นการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการหลังจากเธอรอดชีวิตจากการถูกยิงเข้าที่ศีรษะโดยมือปืนตอลิบานในปากีสถาน ขณะอยู่บนรถรับส่งนักเรียนที่ปากีสถานในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เป็นเพระเธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการเรียกร้องโอกาสให้เด็กผู้หญิงชาวปากีสถานได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม มาลาลาได้ใช้โอกาสนี้โปรโมตมูลนิธิทางการศึกษาโลกของยูเอ็น โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และเลขาธิการยูเอ็น ขึ้นกล่าวก่อนหน้าเธอ
บางส่วนของคำสุนทรพจน์ของมาลาลา แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเรียกร้องสิทธิ์ให้กับเด็กและเยาวชนทั้งในด้านความปลอดภัย และโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กผู้หญิงทั่วโลก “เราเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลในโลกนี้ต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย เพื่อที่จะปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตราย เราเรียกร้องให้ยูเอ็นขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กทุกคนในโลกนี้” และ “ความปราถนาของข้าพเจ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งความหวังและความฝันที่ข้าพเจ้ามียังคงเดิม” และมาลาลา กล่าวต่อไปว่า “ข้าพเจ้าไม่เป็นปรปักษ์กับผู้ใด หรือการที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้ไม่ได้ต้องการกล่าวเป็นปรปักษ์กับกลุ่มตอลิบานหรือกลุ่มก่อการร้ายอื่นแต่อย่างใด ข้าพเจ้ามายืนในที่นี้เพียงเพื่อต้องการพูดแทนเด็กทุกคนในโลกในการขอโอกาสทางการศึกษาให้กับทั้งเขาและเธอเหล่านั้น”
ซึ่งในหลายส่วนของโลก ทั้งผู้หญิงและเด็กต่างตกเป็นเหยื่อของการถูกกดขี่ ถูกบังคับให้แต่งงานก่อนวัยอันควร ดังนั้นทุกประเทศควรลุกขึ้นต่อต้านเพื่อสิทธิ์ของสตรีและเด็ก รวมถึงการให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กอีกด้วย
มาลาลากล่าวย้ำว่า “ในตอนที่พวกเราอยู่ในโรงเรียนที่ปากีสถาน พวกเรารู้ถึงความสำคัญของปากกาและสมุด” และ “กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงกลัวการที่เด็กๆ มุสลิมจะได้รับการศึกษา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม โรงเรียนที่นั่นถูกระเบิดทุกวัน พวกนั้นกลัวการเดินไปข้างหน้า กลัวการเปลี่ยนแปลง” มาลาลากล่าวต่อไปว่า “ถ้าหากผู้หญิงและเด็กลุกขึ้นเพื่อเรียกร้องในสิทธิ์ของพวกเธอ “ไม่มีใครที่สามารถจะหยุดพวกเธอได้” “และถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเรามุ่งหวังแล้ว ให้พวกเราทำให้ตัวเองแข็งแกร่งด้วยความรู้และปกป้องตัวเองด้วยความเป็นหนึ่งเดียว”
มาลาลากล่าวย้ำท้ายสุดว่า “ให้เราได้มีโอกาสหยิบสมุดและปากกาของพวกเราขึ้นมา เพราะพวกมันเป็นอาวุธสำคัญที่พวกเรามี เด็กหนึ่งคน ครูหนึ่งคน และหนังสือหนึ่งเล่ม สามารถเปลี่ยนโลกใบนี้ได้ การศึกษาเป็นคำตอบ การศึกษาต้องมาก่อน”
ซึ่งในที่ประชุมในระหว่างที่มาลาลากล่าวสุนทรพจน์ ผู้เข้าร่วมประชุมที่เป็นผู้หญิงต่างต้องปาดน้ำตาเพราะประทับใจในสุนทรพจน์ของเธอ