xs
xsm
sm
md
lg

เป็นความภูมิใจที่ได้ฆ่า!! “ตอลิบาน” ประกาศจะเอาชีวิต “มาลาลา” อีกครั้ง – อ้างทำไปเพราะปกป้อง “ศาสนา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - “มาลาลา ยูซาฟไซ” เด็กสาวชาวปากีสถาน วัย 16 ปี นักรณรงค์ด้านการศึกษา ที่รอดตายจากการพยายามถูกสังหารของกลุ่มตอลิบาน ล่าสุดกลุ่มก่อการร้ายให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ABC ของอเมริกาว่าจะลงมือสังหารเธออีกครั้ง เหตุเพราะเธอพูดล้อเล้นเชิงหมิ่นศาสนาอิสลาม และถือเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มในการเสียชีวิตของเธอ

มาลาลา ยูซาฟไซ เด็กสาวชาวปากีสถาน วัย 16 ปี ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานตั้งแต่อายุได้เพียง 11 ปี ที่ในขณะนั้นเธอได้เขียนลงในบล็อกของบีบีซีเพื่อเรียกร้องสิทธิของเด็กผู้หญิงที่จะได้ไปโรงเรียนในการตอบโต้มีคำขู่ของกลุ่มตอลิบานที่ก่อนหน้านั้นต้องการปิดโรงเรียนของเด็กผู้หญิงในปากีสถาน ซึ่งข้อเรียกร้องของเธอบนบล็อกบีบีซีนั้นได้ไปปรากฏบนหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในภายหลัง และในขณะที่เธออายุได้ 15 ปี มาลาลาได้ถูกยิงยิงเข้าที่ศรีษะทางด้านซ้ายในขณะที่เธอและเพื่อนโดยสารรถรับส่งนักเรียนกลับบ้าน

โดยล่าสุด ชาฮิดูเลาะห์ ชาฮิด โฆษกของกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานประกาศผ่านการสัมภาษณ์กับสื่อ ABC ของอเมริกาว่า “กลุ่มตอลิบานไม่ได้ต้องการเอาชีวิตมาลาลาเหตุจากการรณรงค์ด้านการศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิง แต่ทางกลุ่มต้องสังหารเธอ เพราะมาลาลา “พูดจาล้อเล่น” เชิงดูหมิ่นศาสนาอิสลาม และกล่าวโจมตีศาสนาศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งเธอเป็นคนยอมรับเองว่าเธอกล่าวโจมตีศาสนาของเธอเอง นั่นเป็นเหตุผลที่พอเพียงแล้วสำหรับเราที่จะลงมือ ทางกลุ่มจะพยายาม “ฆ่า” เด็กสาวผู้นี้อย่างแน่นอน” ชาฮิดยังเผยต่อไปว่า “ซึ่งทั่วไปแล้ว ศาสนาอิสลามมีกฎห้ามสังหารสตรีหรือเด็กผู้หญิง แต่ยกเว้นพวกเธอเหล่านั้นจะสนับสนุนคนนอกศาสนามาทำสงครามกับศาสนาของเรา”

การขู่ฆ่ามาลาลาครั้งนี้เกิดขึ้นอีกครั้งท่ามกลางกระแสข่าวหนาหูที่เกิดขึ้นว่ามาลาลาเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ถูกเสนอเพื่อเข้าชิงราวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่จะประกาศในวันที่ 11 นี้ โดยมาลาลาได้ให้ความเห็นเรื่องถูกเสนอชื่อเพื่อเข้าชิงรางวัลโนเบิลว่า “ถ้าดิฉันได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมาครอบครอง ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของดิฉัน แต่ถ้าหากว่าดิฉันไม่ได้รับรางวัลนี้ มันก็คงไม่ได้สำคัญแต่อย่างไร เพราะเป้าหมายของดิฉันเพื่อ “สันติภาพ” ไม่ใช่เพื่อ “รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ” และที่สำคัญ...เพื่อการศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิงทั่วโลก”

นอกจากนี้ มาลาลายังได้กล่าวถึงระบบความกลัวที่กลุ่มก่อการร้ายตอลิบานต้องการปลูกฝังในปากีสถาน ซึ่งเป็นเหตุให้เธอต้องก้าวออกมาสู่สาธารณะเพื่อเอ่ยถึงในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งเธออายุ 11 ปี “การลงโทษของกลุ่มตอลิบานเสมือนการสังหารคนที่ Green Chowk (จุดชุมชนในเขตบ้านของเธอที่ปากีสถาน) หรือใครสักคนสาดน้ำกรดใส่หน้าผู้หญิง หรือการทำร้ายร่างกายพวกเธอเหล่านั้นและค่อยปลิดชีวิตภายหลัง ดิฉันกลัวในอนาคตของตนเอง และในขณะนั้นทุกคนต่างกลัวกับทุกสิ่งรอบตัว ในทุกชุมชน ที่เมืองมินโกรา” โดยมาลาลามีกำหนดจะเปิดตัวหนังสือประวัติชีวิตของเธอ “I am Malala : The Girl Who Stood Up For Education And Was Shot By The Taliban” ในวันพรุ่งนี้( 8)

โดยในขณะนี้ทั้งครอบครัวมาลาลาและเด็กสาวผู้นี้ได้ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษในเมืองเบอร์มิงแฮม และเธอได้เข้าศึกษาต่อในชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอิดจ์บาสตัน ไฮสกูล ในเดือนมีนาคม ต้นปีนี้ มาลาลามีแผนจะเดินทางกลับปากีสถานในทันทีที่เธอสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดและมีศักยภาพมากพอในทำสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมากระสุนปืนของกลุ่มตอลิบานนอกจากไม่สามารถปลิดชีวิตเธอได้แล้ว มันยังไม่สามารถดับความหวังเธออีกด้วย มาลาลาได้ฉลองวันเกิดอายุครบ 16 ปีเต็ม ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ที่ยูเอ็น นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิมาลาลาเพื่อให้การสนับสนุนเด็กผู้หญิงทั่วโลกด้านการศึกษา


มาลาลา ยูซาฟไซ( ซ้าย) ขณะได้กลับไปเรียนต่อครั้งแรกที่โรงเรียนอิดจ์บาสตัน ไฮสคูล หลังจากฟื้นตัวจากการเข้ารับรักษาตัวที่อังกฤษ
มาลาลา ยูซาฟไซ ขณะที่กำลังเข้ารับรักษาตัวที่อังกฤษดังโดนกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานลอบสังหารเมื่อเธอมีอายุได้ 15 ปี
โรงเรียนหญิงล้วนในปากีสถานที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ีความมั่นคงของปากีสถานคอยให้ความปลอดภัย โดยโรงเรียนแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อภายหลังเพื่อเป็นเกียรติแก่มาลาลาหลังจากเธอถูกลอบสังหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น