เอเจนซีส์ - สื่ออเมริกัน เช่น MSNBC รายงานถึงผลสำรวจของ Commonwealth Fund ที่ถูกตีพิมพ์ในวันจันทร์(4)ว่า มีเพียง 17% ของชาวอเมริกันทั้งหมดที่ยังไม่มีประกันสุขภาพนั้นพยายามที่จะซื้อจากเวปประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์” ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และมีเพียง 20% ของจำนวนผู้ที่สนใจจะซื้อประสบความสำเร็จซื้อแพคเกจประกันสุขภาพได้ตามที่ต้องการท่ามกลางปัญหาเวปไซต์ล่มซ้ำซากตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว จนทำให้ชาวอเมริกันรู้สึกขยาดและเบื่อหน่ายกับความไม่แน่นอน
จากการที่กฏหมาย Affordable care act ที่มีผลบังคับใช้แล้วและทำให้ชาวอเมริกันที่ยังไม่มีประกันสุขภาพต้องหาซื้อก่อนถึงเส้นตายภายในวันที่ 31 มีนาคม 2014 โดยตั้งแต่มีการเปิดเวปไซต์ “โอบามาแคร์” ขึ้นมาเป็นช่องทางการเลือกซื้อแพคเกจประกันสุขภาพสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกันนั้นมีปัญหาด้านเทคนิกมาโดยตลอด ซึ่งเป็นปัญหาต้งแต่ด้านโปรแกรมจนถึงปัญหาด้านอุปกรณ์ และเป็นที่น่าตกใจว่าระบบเวปไซต์ล่มตั้งต่วันแรกที่เปิดตัวเพราะไม่สามารถรับผู้เข้าชมเวปไซต์เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน จนถึงกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ต้องออกมาแก้ตัว และสื่อในสหรัฐฯต่างรายงานกันอย่างกว้างขวางจนกระทั่งคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯถึงกับมีแนวคิดที่ต้องการผู้ก่อตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแมคคาฟีมาเป็นที่ปรึกษาแก้ปัญหาเวปไซต์ล่ม
ที่ผ่านมาทางสหรัฐฯได้จ้างบริษัทสัญชาติแคนาดาในการดำเนินการออกแบบระบบเวปไซต์ และเป็นที่แน่ชัดว่าการที่ต้องประสบปัญหาเวปล่มนั้นจะทำให้ชาวอเมริกันที่ต้องการมีประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์”รู้สึกไม่มั่นใจต่อความไม่แน่นอนและขยาดกับปัญหาเหล่านี้ โดยในวันจันทร์(28 ตุลาคม)ที่ผ่านมาเวปไซต์ “โอบามาแคร์”ได้ล่มอีกครั้งซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ระบบสามารถกู้กลับคืนได้ภายใน 90 นาที
ทางด้าน จูเลีย บาเทลล์ โฆษกของนโยบายประกันสุขภาพMedicare และMedicaid ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯกล่าวว่า “ทางทีมงานเจ้าหน้าที่ระบบได้แก้ไขปัญหาทางเทคนิกใหญ่ๆมากกว่า 12 จุดบนเวปไซต์ healthcare.gov ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา” โดยเธอได้เสริมว่า “เวปไซต์โอบามาแคร์จะเป็นปกติภายในปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งผู้ที่ต้องการที่จะซื้อประกันจะไม่ประสบปัญหาเวปล่ม เพจสามารถโหลดได้ไวขึ้น และปุ่มการทำงานบนเวปสามารถคลิกใช้ได้” นอกจากนี้บาเทลล์กล่าวว่าเวปไซต์จะไม่สามารถเข้าได้ในเฉพาะเวลาที่ต้องการปรับปรุงระบบตั้งแต่ 1.00 น-5.00น. เวลาทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ซึ่งถึงแม้ทางทำเนียบขาวจะปฎิเสธที่จะเปิดเผยยอดของชาวอเมริกันที่พยายามจะซื้อประกันสุขภาพในขณะนี้ก็ตาม และที่ผ่านมาในสัปดาห์แรกของการเปิดตัวซึ่งเนื่องจากปัญหาระบบล่ม จึงมีชาวอเมริกันไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าระบบได้ แต่จากตัวเลขยอดผู้ใช้บนเวปล่าสุดแสดงตัวเลข 700,000 คน โดยCommonwealth Fund ได้ทำการสำรวจจำนวนที่แท้จริงของชาวอเมริกันที่สนใจจะซื้อประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์” โดยCommonwealth Fundได้ทำการสำรวจทางโทรศัพท์จำนวนประชาชนอเมริกันมากกว่า 4000 คนในช่วงระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม จนถึงวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา และพบว่ามีชาวอเมริกันจำนวน 682 คนจากทั้งหมด 4000 คนที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ ซึ่ง
ซาราห์ คอลลินส์ นักวิจัยงานชิ้นนี้ได้เปิดเผยว่า “สามารถยืนยันได้ว่ามีจำนวนชาวอเมริกันราว 17% ของผู้มีสิทธิ์ซื้อประกัน “โอบามาแคร์” นั้นได้เข้าเวปไซต์ healthcare.gov ในเดือนตุลาคม และจาก 21% ของจำนวนคนที่สามารถเข้าสู่เวปไซต์ได้สำเร็จนั้นได้ซื้อประกันสุขภาพจากรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” โดยทางทำเนีบยขาวได้อ้างว่า จะเปิดเผยตัวเลขของผู้ใช้เวปไซต์ healthcare.gov ในกลางเดือนนี้ และหลังจากนั้นจะเปิดเผยตัวเลขยอดผู้ใช้ทุกเดือนต่อไป
นอกจากนี้งานวิจัยยังเปิดเผยว่า มีชาวอเมริกันเกือบจะ48% ที่ยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถจ่ายค่าประกันสุขภาพได้ ในขณะที่จำนวนชาวอเมริกันอีก 46% เผยว่าพวกเขากำลังตัดสินใจเลือกแพคเกจอยู่ และมีชาวอเมริกันอีกจำนวน 37% ประสบปัญหาด้านเทคนิก และถึงแม้ว่าโอบามาแคร์จะอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ในอเมริกา หรือเป็นที่ถกเถียงในสื่อโทรทัศน์และวิทยุก็ตาม แต่มีชาวอเมริกันถึง46% จากจำนวนของกลุ่มตัวอย่างยังไม่ทราบว่า “ทางการสหรัฐฯนั้นช่วยพวกเขาจ่ายเบี้ยค่าประกัน”
ซึ่งในอเมริกานั้น มีชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งมีประกันสุขภาพจากบริษัทที่พวกเขาทำงานอยู่ และมีอีกจำนวนหนึ่งที่ถือประกันสุขภาพMedicare และMedicaid ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในขณะที่มีจำนวนอีกกว่า 16% ของจำนวนประชากรสหรัฐฯทั้งหมด หรือเท่ากับจำนวนมากกว่า 40 ล้านคนที่ยังไม่มีประกันสุขภาพในขณะนี้ ซึ่งจำนวน40 ล้านคนนี้เป็นเป้าหมายของเวปไซต์ “โอบามาแคร์”
และพบว่ามีหลายรัฐที่ประสบความสำเร็จในการตั้งเวปไซต์ขายประกันสุขภาพที่สอดคล้องกับนโยบาย “โอบามาแคร์” เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐนิวยอร์ก และรัฐเคนตักกี และพบว่าเวปไซต์ประกันสุขภาพของรัฐเหล่านี้นั้นทำงานได้ดีเมื่อเทียบกับเวปไซต์ประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ healthcare.gov โดยรัฐเคนตักกีนั้นมียอดผู้ซื้อประกันสุขภาพจำนวน 32,485 คน ในเดือนแรกที่เปิดตัว และพบว่าจำนวนกว่า 40% ของผู้ซื้อนั้นมีอายุต่ำกว่า 35 ปี นอกจากนี้ยังพบว่า 3 ใน 4 ของผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพในเคนตักกีมีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่จะช่วยแบ่งเบาภาระจ่ายเงินเบี้ยประกัน และยังพบว่าในรัฐเคนตักกีนั้นมีชาวอเมริกันที่ยังไม่มีประกันสุขภาพอยู่สูงถึง 650,000 คน
ในรัฐนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่รัฐเปิดเผยในวันที่ 24 ตุลาคมว่า มียอดผู้ซื้อประกันสุขภาพในเวปไซต์ของรัฐจำนวน 34,000 คน ในขณะที่รัฐอื่นๆ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐคอนเนตทิคัตต่างปฎิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขยอดผู้ใช้ โดยอ้างว่าจะเปิดเผยในภายหลัง
คลิปอธิบาย “โอบามาแคร์”
คลิปล้อเลียนปัญหาเวป “โอบามาแคร์ล่ม”
