xs
xsm
sm
md
lg

สื่อสาวไส้อีก สหรัฐฯ ดักฟังทูตฝรั่งเศสใน UN ไม่ไว้ใจโหวตคว่ำบาตรอิหร่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บีบีซี - สื่อแดนน้ำหอมออกมาแฉอีกยกในวันอังคาร (22) ระบุสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ได้สอดแนมเจ้าหน้าที่ทูตฝรั่งเศสในวอชิงตันและที่สหประชาชาติ ข้อมูลล่าสุดที่เชื่อว่าคงเติมไฟความขุ่นเคืองแก่ปารีส หลังจากก่อนหน้านี้ควันยังออกหูไม่หยุด หลังจากได้ทราบข้อมูลว่าพลเมืองของประเทศถูกอเมริกาลอบดังฟังโทรศัพท์มากกว่า 70 ล้านสายในเวลาไม่ถึงเดือน

หนังสือพิมพ์เลอ มงด์ รายงานว่าบันทึกภายในของเอ็นเอสเอที่พวกเขาได้มานั้น ระบุถึงรายละเอียดของการใช้โปรแกรมสอดแนมอันทันสมัยที่เรียกกันว่า “Genie” และกล่าวหาสหรัฐฯ ใช้โปรแกรมนี้เจาะเข้าไปยังเครือข่ายของต่างชาติ พร้อมส่งสปายแวร์เข้าสู่ซอฟต์แวร์ เราเตอร์ และไฟร์วอลล์ ของคอมพิวเตอร์ต่างๆ

รายละเอียดล่าสุดนี้ถูกเผยแพร่ออกมาเพียง 1 วัน หลังจากเอ็นเอสเอถูกกล่าวหาว่าดักฟังโทรศัพท์พลเมืองหลายล้านสายในฝรั่งเศส ขณะที่ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในรายงานข่าวของเลอ มงด์ นี้ ได้มาจาก นายเกล็น กรีนวัลด์ ผู้สื่อข่าวเดอะการ์เดียน ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลลับ ที่รับมอบมาจากนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างบริษัทคู่สัญญาของเอ็นเอสเออีกที



ในรายงานของเลอ มงด์ ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Genie โครงการสอดแนมลับสุดยอดของเอ็นเอสเอ ซึ่งสามารถฝังสปายแวร์จากระยะไกลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่อยู่ในต่างแดน ในนั้นรวมถึงคอมพิวเตอร์ของสถานทูตต่างชาติ พร้อมอ้างว่าสปายแวร์ได้ถูกส่งเข้าซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์สถานทูตฝรั่งเศสในวอชิงตัน (ภายใต้รหัส Wabash) รวมถึงคอมพิวเตอร์ของเหล่าคณะทูตฝรั่งเศสในสหประชาชาติด้วย (ภายใต้รหัส Blackfoot)

เอกสารลับซึ่งลงวันที่เดือนสิงหาคม 2010 บ่งชี้ว่ามีการเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ของเหล่าสถานทูตต่างชาติ เพื่อให้สหรัฐฯ ทราบจุดยืนของสมาชิกความมั่นคงแห่งสหประชาชาติล่วงหน้า ก่อนสหประชาชาติมีกำหนดลงมติคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่

ในตอนนั้นสหรัฐฯ มีความกังวลว่าฝรั่งเศส อาจหันไปสนับสนุนบราซิล ซึ่งคัดค้านการคว่ำบาตรเพิ่มเติม แม้ความจริงแล้วพวกเขายังยืดหยัดอยู่ข้างอเมริกาเสมอ โดยในเอกสารลับยังได้อ้างคำพูดของนางซูซาน ไรซ์ ผู้แทนทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ ณ ขณะนั้น ที่ยกย่องการทำงานของเอ็นเอสเอ ว่า “มันทำให้ฉันได้รู้ความจริง และเผยให้เห็นจุดยืนของประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับการคว่ำบาตร มันช่วยให้เราได้เร่งเดินหน้าเจรจาต่อไป”

เมื่อวันจันทร์ (21) เลอ มอนเด ออกมาแฉว่าเอ็นเอสเอดักฟังโทรศัพท์ในฝรั่งเศสกว่า 70 ล้านสาย ระหว่างวันที่ 10 ธันวาคมปีที่แล้ว ถึงวันที่ 8 มกราคมปีนี้ เป็นเหตุให้ต้องมีการต่อสายตรงพูดคุยกันโดยด่วน ระหว่าง ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ด้วยผู้นำแดนน้ำหอมตำหนิการกระทำของเอ็นเอสเอว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ระหว่างเพื่อนและพันธมิตร และต้องการให้โอบามาส่งมอบข้อมูลการสอดแนมการสื่อสารของฝรั่งเศสทั้งหมด

อนึ่งการเปิดโปงเหล่านี้เป็นการต่อยอดมหกรรมการแฉของสโนว์เดนเกี่ยวกับโครงการสอดแนมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกของเอ็นเอสเอที่ชื่อว่า “ปริซึม” นั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น