ฝรั่งเศสเดือดจัด เรียกร้องวอชิงตันชี้แจงโดยด่วน หลังสื่อใหญ่สองค่ายรายงานในวันอาทิตย์ (20 ต.ค.) โดยอ้างอิงเอกสารจาก “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน” ที่แฉว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ดักฟังโทรศัพท์หลายสิบล้านสายในเมืองน้ำหอม และ “แฮก” อีเมลของประธานาธิบดีแดนจังโก้
รายงานทั้ง 2 ชิ้นดังกล่าวที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์รายวัน เลอ มงด์ของฝรั่งเศส และแดร์ ชปีเกล หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของเยอรมนี โดยต่างอ้างอิงข้อมูลลับของทางการสหรัฐฯซึ่งมาจากการเปิดเผยของสโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอนั้น ถือเป็นการเปิดโปงเพิ่มเติมจากเมื่อเดือนมิถุนายนที่สโนว์เดนแฉโปรแกรมสอดแนมลับระดับโลกของอเมริกาที่ชื่อว่า "ปริซึม" ซึ่งมุ่งติดตามข้อมูลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต และทางอัยการฝรั่งเศสให้ความสนใจสอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่
นายกรัฐมนตรี ฌอง-มาร์ก เอโรต์ ของแดนน้ำหอมบอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (21 ต.ค.)ระหว่างที่กำลังเยือนเดนมาร์กว่า เขารู้สึก “ช็อกอย่างแรง” จากรายงานข่าวนี้ และเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯอธิบาย
“เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ชาติพันธมิตรด้วยกันอย่างสหรัฐฯ เมื่อมาจนถึงจุดนี้แล้วยังคงเที่ยวสอดแนมสืบความลับการติดต่อสื่อสารแบบส่วนตัว อย่างชนิดที่ไม่มีความชอบธรรมทางยุทธศาสตร์รองรับเลยอยู่อีก มันไม่มีความชอบธรรมใดๆ รองรับเลยเมื่อพิจารณาจากแง่มุมของการป้องกันประเทศชาติ” เอโรต์บอก
ขณะที่ ลอรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวในวันเดียวกัน ระหว่างเดินทางไปยังลักเซมเบิร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ว่า ได้เรียกชาร์ลส์ ริฟกิน เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำปารีสเข้าพบในช่วงเช้า
“การปฏิบัติระหว่างพันธมิตรในลักษณะเหล่านี้ซึ่งละเมิดความเป็นส่วนตัว เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง และเราต้องทำให้มั่นใจโดยเร็วว่า พวกเขาจะไม่ทำเช่นนั้นอีกไม่ว่าในสถานการณ์ใด”
รายงานทั้ง 2 ชิ้นดังกล่าวที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์รายวัน เลอ มงด์ของฝรั่งเศส และแดร์ ชปีเกล หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของเยอรมนี โดยต่างอ้างอิงข้อมูลลับของทางการสหรัฐฯซึ่งมาจากการเปิดเผยของสโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอนั้น ถือเป็นการเปิดโปงเพิ่มเติมจากเมื่อเดือนมิถุนายนที่สโนว์เดนแฉโปรแกรมสอดแนมลับระดับโลกของอเมริกาที่ชื่อว่า "ปริซึม" ซึ่งมุ่งติดตามข้อมูลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต และทางอัยการฝรั่งเศสให้ความสนใจสอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่
นายกรัฐมนตรี ฌอง-มาร์ก เอโรต์ ของแดนน้ำหอมบอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (21 ต.ค.)ระหว่างที่กำลังเยือนเดนมาร์กว่า เขารู้สึก “ช็อกอย่างแรง” จากรายงานข่าวนี้ และเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯอธิบาย
“เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ชาติพันธมิตรด้วยกันอย่างสหรัฐฯ เมื่อมาจนถึงจุดนี้แล้วยังคงเที่ยวสอดแนมสืบความลับการติดต่อสื่อสารแบบส่วนตัว อย่างชนิดที่ไม่มีความชอบธรรมทางยุทธศาสตร์รองรับเลยอยู่อีก มันไม่มีความชอบธรรมใดๆ รองรับเลยเมื่อพิจารณาจากแง่มุมของการป้องกันประเทศชาติ” เอโรต์บอก
ขณะที่ ลอรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวในวันเดียวกัน ระหว่างเดินทางไปยังลักเซมเบิร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ว่า ได้เรียกชาร์ลส์ ริฟกิน เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำปารีสเข้าพบในช่วงเช้า
“การปฏิบัติระหว่างพันธมิตรในลักษณะเหล่านี้ซึ่งละเมิดความเป็นส่วนตัว เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง และเราต้องทำให้มั่นใจโดยเร็วว่า พวกเขาจะไม่ทำเช่นนั้นอีกไม่ว่าในสถานการณ์ใด”