xs
xsm
sm
md
lg

ปารีสรับไม่ได้-ย้ำ US หยุดสอดแนม มะกันแก้เกี้ยวปรับระบบข่าวกรอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - “ฝรั่งเศส” เตือน “อเมริกา” หยุดดักฟังโทรศัพท์พลเมืองของตน แต่แสดงท่าทีไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นตัดสัมพันธ์ ด้าน “อดีตผู้นำแดนจังโก้” ทวีตตำหนิ หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ “ดูหมิ่น” สถาบันเม็กซิโกหลังตนเองถูกแฮกบัญชีอีเมล ขณะที่ “วอชิงตัน” แก้เกี้ยวว่ากำลังหาทางสายกลางระหว่างการรักษาความปลอดภัยกับการปกป้องความเป็นส่วนตัวของพลเมือง

วันจันทร์ที่ผ่านมา (21) ลอรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เรียกร้องให้จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางไปเยือนกรุงปารีส อธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมสอดแนมการสื่อสารทางโทรศัพท์และทางอินเทอร์เน็ตของอเมริกา ที่สร้างความไม่พอใจให้หลายประเทศในขณะนี้ พร้อมตอกย้ำว่า การสอดแนมเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และต้องยุติทันที

ขณะที่ทางด้าน เคร์รี พยายามปกป้องจุดยืนของวอชิงตันโดยหลีกเลี่ยงไม่ลงรายละเอียดข้อร้องเรียนล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่า การปกป้องความปลอดภัยของพลเมืองในปัจจุบันเป็นงานที่ซับซ้อนและท้าทายอย่างยิ่ง ท่ามกลางคนกลุ่มใหญ่ที่จ้องทำร้ายผู้อื่น และยืนยันว่า เป้าหมายของอเมริกาคือ การค้นหาสมดุลระหว่างการปกป้องความเป็นส่วนตัวกับการรักษาความปลอดภัยพลเมืองเช่นเดียวกับที่หลายประเทศพยายามทำอยู่

นอกจากนั้นในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส ยังย้ำกับบารัค โอบามา ผู้นำแดนอินทรีว่า การกระทำของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ระหว่างเพื่อนและพันธมิตร และต้องการให้โอบามาส่งมอบข้อมูลการสอดแนมการสื่อสารของฝรั่งเศสทั้งหมด

กระนั้น มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ปารีสต้องการปลดชนวนความขัดแย้งที่เกิดจากการเปิดโปงล่าสุดที่อิงกับข้อมูลซึ่งได้รับการเปิดเผยจากเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอ

กล่าวคือเมื่อถูกสื่อถามว่า ฝรั่งเศสคิดจะตอบโต้เอ็นเอสเอหรือไม่ นาจาต์ วอลโลด์-เบลกาเซม โฆษกรัฐบาลแดนน้ำหอมก็ตอบว่า เรื่องนี้ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฟาเบียส และโดยส่วนตัวแล้วเขาไม่คิดว่า มีความจำเป็นต้องทำให้สถานการณ์ลุกลามใหญ่โต
นายชาร์ลส์ ริฟกิน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำปารีส เดินทางออกจากกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส หลังถูกเรียกตัวไปประท้วงเมื่อวันจันทร์(21)
ต้นตอความขัดแย้งคราวนี้มาจากรายงานของหนังสือพิมพ์เลอ มงด์ฉบับวันอาทิตย์ (20) ซึ่งอ้างข้อมูลลับซึ่งสโนว์เดนเปิดโปง ที่ระบุว่า เอ็นเอสเอดักฟังโทรศัพท์ในฝรั่งเศสกว่า 70 ล้านสายระหว่างวันที่ 10 ธันวาคมปีที่แล้วถึงวันที่ 8 มกราคมปีนี้ และดูเหมือนเป้าหมายจะครอบคลุมตั้งแต่ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายจนถึงนักธุรกิจและนักการเมือง

ต่อมาในวันอังคาร (22) เลอ มงด์ ยังตีพิมพ์รายละเอียดการสอดแนมของอเมริกาต่อสถานทูตฝรั่งเศสทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ของพฤติการณ์เหล่านี้ได้ถูกนำออกเผยแพร่ในโดเมนสาธารณะอยู่แล้ว

ทางด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ นั้นยอมรับว่า ฝรั่งเศสมีความชอบธรรมที่จะร้องทุกข์ แต่พยายามอธิบายว่า รายงานบางส่วนเกี่ยวกับโครงการของเอ็นเอสเอมีการบิดเบือน

ทำเนียบขาวยังแถลงว่า โอบามาได้สั่งการให้ทบทวนวิธีการรวบรวมข่าวกรอง เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการรักษาความปลอดภัยกับการปกป้องความเป็นส่วนตัวแล้ว

นอกจากนี้ในการบอกเล่าต่อสื่อที่มีการขอร้องไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันยังไม่สบายใจที่จะย้ำว่า ข้อมูลที่ได้จากการดักฟังโทรศัพท์อาจเป็นประโยชน์ต่อพันธมิตรทั้งหมดของวอชิงตันในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย

นอกจากต้องปลอบประโลมฝรั่งเศสแล้ว คณะรัฐบาลโอบามายังต้องหาทางแก้ตัวกับเม็กซิโกไปพร้อมกัน หลังจากแดร์ ชปีเกล หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของเยอรมนีแฉว่า เอ็นเอสเอแอบเจาะบัญชีอีเมลของเฟลิเป กัลเดรอน อดีตประธานาธิบดีแดนจังโก้

วันจันทร์ กัลเดรอนทวีตว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นสถาบันของเม็กซิโก เนื่องจากเกิดขึ้นขณะที่ตนดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พีนา เนียโต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเม็กซิโก ก็ได้ร้องเรียนโอบามามาแล้ว เรื่องที่มีรายงานว่า อเมริกาสอดแนมอีเมลของตน

การเปิดโปงเหล่านี้เป็นการต่อยอดมหกรรมการแฉของสโนว์เดนเกี่ยวกับโครงการสอดแนมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกของเอ็นเอสเอที่ชื่อว่า “ปริซึม”

ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสและเม็กซิโกเป็นเพียงสองประเทศล่าสุดที่ออกมาเรียกร้องขอคำอธิบายจากวอชิงตัน โดยก่อนหน้านี้เยอรมนีและบราซิลก็เคยแสดงความไม่พอใจอย่างมาก หลังมีรายงานว่า วอชิงตันสอดแนมการสื่อสารของผู้นำ นักการเมือง และนักธุรกิจของบราซิลและยุโรป
กำลังโหลดความคิดเห็น