(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
Crash prompts rage against Tajik machine
By Farangis Najibullah
18/10/2013
มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย สำหรับการที่พวกเส้นใหญ่ในทาจิกิสถานจะสร้างนรกขึ้นบนท้องถนนในเมืองหลวงดูชานเบ ด้วยการซิ่งรถหรูหราราคาแพงของพวกเขาแข่งกันอย่างเมามัน ทว่าเวลานี้เลือดที่ไหลนองตามท้องถนนกลับกำลังส่งเสียงโกรธเกรี้ยวดังสนั่น ภายหลังจากเกิดเหตุรถชนกันที่ทำให้มีคนตาย 3 คน โดยที่เด็กหนุ่มคนขับรถคันก่อเหตุเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์โยงใยอยู่กับครอบครัวประธานาธิบดีของประเทศ แล้วปีนี้ก็เป็นปีที่จะจัดการเลือกตั้งเสียด้วย
มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย สำหรับการที่พวกเส้นใหญ่ในทาจิกิสถานจะสร้างนรกขึ้นบนท้องถนนในเมืองหลวงดูชานเบ ด้วยการซิ่งรถหรูหราราคาแพงของพวกเขาแข่งกันอย่างเมามัน ทว่าเวลานี้เลือดที่ไหลนองตามท้องถนนกลับกำลังส่งเสียงโกรธเกรี้ยวดังสนั่น ภายหลังจากเกิดเหตุรถชนกันที่ทำให้มีคนตาย 3 คน โดยที่เด็กหนุ่มคนขับรถคันก่อเหตุเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์โยงใยอยู่กับครอบครัวประธานาธิบดีของประเทศ แล้วปีนี้ก็เป็นปีที่จะจัดการเลือกตั้งเสียด้วย
การผสมผสานกันเช่นนี้เองกำลังสร้างปัญหาให้แก่ประธานาธิบดีอีโมมาลี ราห์มอน (Emomali Rahmon) ในขณะที่เขาออกรณรงค์หาเสียงเพื่อให้ตนเองได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของทาจิกิสถานอีกสมัยหนึ่งในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้
เหตุการณ์คราวนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนก่อนรุ่งสางของวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีคนหนึ่งกำลังขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคันใหม่เอี่ยมของเขาด้วยความเร็วเหนือขีดจำกัดตามกฎจราจร ขณะพุ่งชนโครมใส่ยานพาหนะอีกคันหนึ่ง ทำให้คนขับรถคันนั้นและผู้โดยสารอีก 2 คนเสียชีวิต แล้วยังมีอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส
แหล่งข่าวหลายรายจากกระทรวงมหาดไทยทาจิกิสถานยืนยันกับ เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี ( Radio Free Europe/Radio Liberty หรือ RFE/RL) ภาคภาษาทาจิก (Tajik Service) ว่า บุตรชายของเจ้าหน้าทีระดับสูงของรัฐผู้หนึ่งคือผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยของรถบีเอ็มดับเบิลยู ขณะเกิดเหตุร้ายเมื่อเวลาประมาณตีสองครึ่งของวันที่ 9 ตุลาคม
คนขับรถผู้นี้ ซึ่ง เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี ขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากเขายังเป็นผู้เยาว์นั้น เป็นบุตรชายของ อาโมนุลลอห์ ฮูคูมอฟ (Amonulloh Hukumov) ผู้อำนวยการใหญ่ของการรถไฟ (Railways Agency) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งมีเส้นสายความผูกพันทางครอบครัวอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดีราห์มอน และกลุ่มคนวงในของเขา
ความโกรธเกรี้ยวที่ในตอนแรกๆ ทีเดียว เนื่องมาจากการเสียชีวิตอย่างน่าอนาถของเพื่อนวัยเยาว์ 3 คนรวด กลับแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วทางเว็บสื่อสังคม แล้วการที่เด็กหนุ่มซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุผู้นี้ยังหายตัวไปอย่างลึกลับ ก็ยิ่งทำให้เกิดเสียงเรียกร้องต่อประธานาธิบดีราห์มอน ให้เข้าเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วยตนเอง เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีอย่างยุติธรรม
พฤติการณ์ของตำรวจและพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้ท่านผู้ติดตามทั้งหลายไม่ไว้วางใจกระบวนการยุติธรรมหนักข้อขึ้นไปอีก กล่าวคือ ตำรวจและพนักงานสอบสวนในตอนแรกๆ ยังกล้าเปิดเผยชื่อผู้ต้องหาและรายละเอียดของเหตุการณ์คราวนี้ จากนั้นไม่นานก็เริ่มจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ โดยใช้วิธีแถลงแบบคลุมๆ เครือๆ ทำนองว่า “ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน”
ทว่าท่ามกลางรายงานข่าวหลายกระแสที่ยังไม่มีการยืนยันว่าเด็กหนุ่มที่เป็นคนขับรถบีเอ็มดับเบิลยู ได้หลบหนีออกไปต่างประเทศแล้ว พวกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตลอดจนสื่อสังคมก็พากันเสนอข่าวตลอดจนภาพถ่ายซึ่งเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงเหตุรถชนกันที่เกิดขึ้น, รวมทั้งชีวิตของผู้ตกเป็นเหยื่อเคราะห์ร้าย, และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลักฐานที่สามารถมัดบุตรชายของฮูคูมอฟอย่างแน่นหนา
**กฎหมายไม่ได้มีไว้ใช้กับชนชั้นนำของทากิจิสถาน**
ภาพถ่ายที่ถูกนำออกเผยแพร่จำนวนไม่น้อย เสมือนคำบรรยายให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ใช้ชีวิตแบบนักเลงหัวไม้ที่เป็นอภิสิทธิ์ชน ในภาพถ่ายภาพหนึ่งจะเห็นเขากำลังควงปืนขณะยืนอยู่ข้างๆ รถยนต์ของเขา ส่วนอีกภาพหนึ่งเขากำลังเอนหลังอยู่บนเก้าอี้โซฟา ขณะสูบมอระกู่ปล่อยกลุ่มควันโขมงออกมาอย่างสบายใจ โดยที่มีปืนกระบอกหนึ่งวางอยู่ใกล้ๆ
ภาพเกี่ยวกับเด็กหนุ่มผู้นี้จำนวนมากทีเดียวถูกโพสต์เอาไว้ในเว็บสื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็น “เฟซบุ๊ก” หรือ “โอดโนคลาสสนิกิ” (Odnoklassniki) เว็บไซต์สื่อสังคมภาษารัสเซีย และก็ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
พวกที่แสดงความเห็นต่างเรียกร้องให้ทางการผู้รับผิดชอบนำตัวเด็กหนุ่มผู้นี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งประกาศอย่างชัดเจนว่าพลเมืองทั่วๆ ไปของทาจิกิสถานกำลังเฝ้าติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด
“กฎหมายไม่ได้มีไว้ใช้กับชนชั้นนำของทากิจิสถานยังงั้นหรือ” ใครคนหนึ่งที่ใช้นามตัวเธอเองว่า “กุลนอร์” (Gulnor) เขียนลงใน โอดโนคลาสสนิกิ “เรากำลังติดตามเฝ้ามองว่าตำรวจจะจัดการกับอาชญากรรมคราวนี้ยังไง”
“กฎหมายของชาวทาจิกออกมาเพื่อใช้บังคับประชาชนคนสามัญเท่านั้น” ผู้วิจารณ์อีกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “นักการทูต ทีเจเค” (Diplomat TJK) บอก “เรามีกฎหมายที่แตกต่างกันซึ่งนำมาใช้บังคับคนที่แตกต่างกัน กฎหมายสำหรับพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็คือ ‘กินข้าวแล้วก็กินเมืองไป’ (eat and rule)”
ผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม นาซีร์ นุสรัต (Nazir Nusrat) โพสต์ข้อเขียนที่อ้างข้อความจากประมวลกฎหมายอาญาของทาจิกิสถาน ซึ่งระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จะต้องถูกจำคุก
สำหรับประธานาธิบดีราห์มอนแล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในจังหวะเวลาอันเลวร้าย
ขณะที่ฝ่ายของประธานาธิบดีกำลังพยายามเชิดชูภาพลักษณ์ของราห์มอน ในฐานะของผู้นำของชาติที่ไม่มีใครมาแทนได้ ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน ความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นจากเหตุรถชนกันคราวนี้ก็กำลังกลายเป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน
ซาอิดจา’ฟาร์ อิสโมนอฟ (Saidja'far Ismonov) ผู้สมัครลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีผู้หนึ่ง เรียกคดีนี้ว่า เป็น “ของขวัญอันน่าสะอิดสะเอียนและผู้รับไม่อยากจะรับ ซึ่งส่งให้แก่ราห์มอนตลอดจนคณะผู้นำชาวทาจิกทั้งหลายทั้งปวงในช่วงจังหวะเวลาที่อ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง”
**แรงเหวี่ยงที่กำลังสะสมตัว**
พวกนักข่าวท้องถิ่นและชาวทาจิกสามัญชน ต่างกำลังเรียกร้อง อิสโมนอฟ และผู้สมัครที่เป็นฝ่ายค้านคนอื่นๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน และเมื่อถูกไล่ต้อนจากพวกนักข่าวรวมทั้งดูเหมือนจะเกรงกลัวความกราดเกรี้ยวของสาธารณชน ก็ทำให้แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลบางคนยังต้องออกมาพูดมาแถลงสิ่งที่ถูกที่ควร
“ตามกฎหมายของทาจิกสถานนั้น ผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่ากำหนดต้องไม่มีสิทธิได้ใบขับขี่ และต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถ” อับดูจับบอร์ อาลิเอฟ (Abdujabbor Aliev) เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงศึกษาธิการแสดงความคิดเห็น เขากล่าวต่อไปว่า ทาจิกิสถานยังมีกฎหมายว่าด้วย “ความรับผิดชอบของผู้ปกครอง” ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของเด็กหนุ่มผู้นี้ควรที่จะต้องถูกนำตัวมารับผิดชอบด้วย
ตัวราห์มอนเองยังไม่ได้ถูกเล่นงานโดยตรงจากคดีนี้ ทว่าความเห็นในสื่อสังคมกำลังมีน้ำเสียงในทางเป็นปรปักษ์ต่อกลุ่มผู้คนวงในของประธานาธิบดีผู้นี้มากขึ้นทุกที
สมาชิกที่ใช้ชื่อว่า “อิมเพอเรเตอร์” (Imperator) ของเว็บโอดโนคลาสสนิกิ บอกว่า คนอย่างฮูตูนอฟ “คิดว่าโลกนี้สร้างขึ้นมาเพื่อพวกเขาเท่านั้น เหมือนกับว่าประชาชนคนอื่นๆ ไม่ได้มีชีวิตอยู่เลย”
มีบางความคิดเห็นเรียกร้องประชาชนอย่าได้ลงคะแนนเสียงเลือกราห์มอน ดังที่สมาชิกผู้ใช้ชื่อว่า ซาลิม รุสตัม (Salim Rustam) ของ โอดโนคลาสสนิกิ กล่าวเตือนว่า “ถ้าพวกเขาชนะเลือกตั้งในคราวนี้ มันก็จะเป็นจุดจบของทาจิกิสถาน” หรือสมาชิกอีกคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า “ครุชบัคต์” (Khushbakht) ซึ่งเรียกร้องว่า “อย่าออกเสียงเลือกคนพวกนี้”
ถึงแม้เป็นที่คาดหมายกันอยู่โดยทั่วไปแล้วว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงกิจการที่มีการจัดตั้งมีการวางหมากกันเอาไว้แล้ว และประธานาธิบดีผู้ดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานผู้นี้จะชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย
พวกนักการเมืองฝ่ายค้านดูเหมือนกำลังพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้ให้มากที่สุด ในขณะที่กำลังเกิดแรงเหวี่ยงสะสมตัวในทิศทางคัดค้านพวกชนชั้นปกครอง ขบวนการฝ่ายค้านที่ใช้ชื่อว่า “กรุปปา 24” (Gruppa 24) กำลังพยายามประคับประคองกระแสการถกเถียงเกี่ยวกับเหตุรถชนกันคราวนี้ไม่ให้จางหายไป โดยพยายามโพสต์ข้อเขียนและภาพที่เกี่ยวข้องขึ้นเว็บให้บ่อยที่สุด
ขณะที่ ราห์มาตุลโล ซอยรอฟ (Rahmatullo Zoirov) ผู้นำของพรรคโซเชียลเดโมแครต (Social Democrat Party) ซึ่งเป็นฝ่ายค้านชี้ว่า “ภายใต้ระบอบปกครองเผด็จการเบ็ดเสร็จของทาจิกิสถาน” พวกที่มีเส้นสายใหญ่โตแม้ก่อคดีอาญา ก็ยังมักสามารถหลุดรอดไปได้
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากจังหวะเวลาและความสนอกสนใจที่มีต่อเหตุการณ์นี้แล้ว มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำเช่นนั้น
รายงานนี้มาจาก เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี ( Radio Free Europe/Radio Liberty หรือ RFE/RL) ทั้งนี้ เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี เป็นกิจการกระจายเสียงที่ได้รับเงินทุนจากรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อเสนอข่าวสารข้อมูลและบทวิเคราะห์ไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันออก, เอเชียกลาง, และตะวันออกกลาง
Crash prompts rage against Tajik machine
By Farangis Najibullah
18/10/2013
มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย สำหรับการที่พวกเส้นใหญ่ในทาจิกิสถานจะสร้างนรกขึ้นบนท้องถนนในเมืองหลวงดูชานเบ ด้วยการซิ่งรถหรูหราราคาแพงของพวกเขาแข่งกันอย่างเมามัน ทว่าเวลานี้เลือดที่ไหลนองตามท้องถนนกลับกำลังส่งเสียงโกรธเกรี้ยวดังสนั่น ภายหลังจากเกิดเหตุรถชนกันที่ทำให้มีคนตาย 3 คน โดยที่เด็กหนุ่มคนขับรถคันก่อเหตุเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์โยงใยอยู่กับครอบครัวประธานาธิบดีของประเทศ แล้วปีนี้ก็เป็นปีที่จะจัดการเลือกตั้งเสียด้วย
มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย สำหรับการที่พวกเส้นใหญ่ในทาจิกิสถานจะสร้างนรกขึ้นบนท้องถนนในเมืองหลวงดูชานเบ ด้วยการซิ่งรถหรูหราราคาแพงของพวกเขาแข่งกันอย่างเมามัน ทว่าเวลานี้เลือดที่ไหลนองตามท้องถนนกลับกำลังส่งเสียงโกรธเกรี้ยวดังสนั่น ภายหลังจากเกิดเหตุรถชนกันที่ทำให้มีคนตาย 3 คน โดยที่เด็กหนุ่มคนขับรถคันก่อเหตุเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์โยงใยอยู่กับครอบครัวประธานาธิบดีของประเทศ แล้วปีนี้ก็เป็นปีที่จะจัดการเลือกตั้งเสียด้วย
การผสมผสานกันเช่นนี้เองกำลังสร้างปัญหาให้แก่ประธานาธิบดีอีโมมาลี ราห์มอน (Emomali Rahmon) ในขณะที่เขาออกรณรงค์หาเสียงเพื่อให้ตนเองได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของทาจิกิสถานอีกสมัยหนึ่งในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้
เหตุการณ์คราวนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนก่อนรุ่งสางของวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีคนหนึ่งกำลังขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคันใหม่เอี่ยมของเขาด้วยความเร็วเหนือขีดจำกัดตามกฎจราจร ขณะพุ่งชนโครมใส่ยานพาหนะอีกคันหนึ่ง ทำให้คนขับรถคันนั้นและผู้โดยสารอีก 2 คนเสียชีวิต แล้วยังมีอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส
แหล่งข่าวหลายรายจากกระทรวงมหาดไทยทาจิกิสถานยืนยันกับ เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี ( Radio Free Europe/Radio Liberty หรือ RFE/RL) ภาคภาษาทาจิก (Tajik Service) ว่า บุตรชายของเจ้าหน้าทีระดับสูงของรัฐผู้หนึ่งคือผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยของรถบีเอ็มดับเบิลยู ขณะเกิดเหตุร้ายเมื่อเวลาประมาณตีสองครึ่งของวันที่ 9 ตุลาคม
คนขับรถผู้นี้ ซึ่ง เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี ขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากเขายังเป็นผู้เยาว์นั้น เป็นบุตรชายของ อาโมนุลลอห์ ฮูคูมอฟ (Amonulloh Hukumov) ผู้อำนวยการใหญ่ของการรถไฟ (Railways Agency) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งมีเส้นสายความผูกพันทางครอบครัวอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดีราห์มอน และกลุ่มคนวงในของเขา
ความโกรธเกรี้ยวที่ในตอนแรกๆ ทีเดียว เนื่องมาจากการเสียชีวิตอย่างน่าอนาถของเพื่อนวัยเยาว์ 3 คนรวด กลับแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วทางเว็บสื่อสังคม แล้วการที่เด็กหนุ่มซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุผู้นี้ยังหายตัวไปอย่างลึกลับ ก็ยิ่งทำให้เกิดเสียงเรียกร้องต่อประธานาธิบดีราห์มอน ให้เข้าเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วยตนเอง เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีอย่างยุติธรรม
พฤติการณ์ของตำรวจและพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้ท่านผู้ติดตามทั้งหลายไม่ไว้วางใจกระบวนการยุติธรรมหนักข้อขึ้นไปอีก กล่าวคือ ตำรวจและพนักงานสอบสวนในตอนแรกๆ ยังกล้าเปิดเผยชื่อผู้ต้องหาและรายละเอียดของเหตุการณ์คราวนี้ จากนั้นไม่นานก็เริ่มจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ โดยใช้วิธีแถลงแบบคลุมๆ เครือๆ ทำนองว่า “ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน”
ทว่าท่ามกลางรายงานข่าวหลายกระแสที่ยังไม่มีการยืนยันว่าเด็กหนุ่มที่เป็นคนขับรถบีเอ็มดับเบิลยู ได้หลบหนีออกไปต่างประเทศแล้ว พวกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตลอดจนสื่อสังคมก็พากันเสนอข่าวตลอดจนภาพถ่ายซึ่งเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงเหตุรถชนกันที่เกิดขึ้น, รวมทั้งชีวิตของผู้ตกเป็นเหยื่อเคราะห์ร้าย, และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลักฐานที่สามารถมัดบุตรชายของฮูคูมอฟอย่างแน่นหนา
**กฎหมายไม่ได้มีไว้ใช้กับชนชั้นนำของทากิจิสถาน**
ภาพถ่ายที่ถูกนำออกเผยแพร่จำนวนไม่น้อย เสมือนคำบรรยายให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ใช้ชีวิตแบบนักเลงหัวไม้ที่เป็นอภิสิทธิ์ชน ในภาพถ่ายภาพหนึ่งจะเห็นเขากำลังควงปืนขณะยืนอยู่ข้างๆ รถยนต์ของเขา ส่วนอีกภาพหนึ่งเขากำลังเอนหลังอยู่บนเก้าอี้โซฟา ขณะสูบมอระกู่ปล่อยกลุ่มควันโขมงออกมาอย่างสบายใจ โดยที่มีปืนกระบอกหนึ่งวางอยู่ใกล้ๆ
ภาพเกี่ยวกับเด็กหนุ่มผู้นี้จำนวนมากทีเดียวถูกโพสต์เอาไว้ในเว็บสื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็น “เฟซบุ๊ก” หรือ “โอดโนคลาสสนิกิ” (Odnoklassniki) เว็บไซต์สื่อสังคมภาษารัสเซีย และก็ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
พวกที่แสดงความเห็นต่างเรียกร้องให้ทางการผู้รับผิดชอบนำตัวเด็กหนุ่มผู้นี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งประกาศอย่างชัดเจนว่าพลเมืองทั่วๆ ไปของทาจิกิสถานกำลังเฝ้าติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด
“กฎหมายไม่ได้มีไว้ใช้กับชนชั้นนำของทากิจิสถานยังงั้นหรือ” ใครคนหนึ่งที่ใช้นามตัวเธอเองว่า “กุลนอร์” (Gulnor) เขียนลงใน โอดโนคลาสสนิกิ “เรากำลังติดตามเฝ้ามองว่าตำรวจจะจัดการกับอาชญากรรมคราวนี้ยังไง”
“กฎหมายของชาวทาจิกออกมาเพื่อใช้บังคับประชาชนคนสามัญเท่านั้น” ผู้วิจารณ์อีกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “นักการทูต ทีเจเค” (Diplomat TJK) บอก “เรามีกฎหมายที่แตกต่างกันซึ่งนำมาใช้บังคับคนที่แตกต่างกัน กฎหมายสำหรับพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็คือ ‘กินข้าวแล้วก็กินเมืองไป’ (eat and rule)”
ผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม นาซีร์ นุสรัต (Nazir Nusrat) โพสต์ข้อเขียนที่อ้างข้อความจากประมวลกฎหมายอาญาของทาจิกิสถาน ซึ่งระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จะต้องถูกจำคุก
สำหรับประธานาธิบดีราห์มอนแล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในจังหวะเวลาอันเลวร้าย
ขณะที่ฝ่ายของประธานาธิบดีกำลังพยายามเชิดชูภาพลักษณ์ของราห์มอน ในฐานะของผู้นำของชาติที่ไม่มีใครมาแทนได้ ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน ความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นจากเหตุรถชนกันคราวนี้ก็กำลังกลายเป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน
ซาอิดจา’ฟาร์ อิสโมนอฟ (Saidja'far Ismonov) ผู้สมัครลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีผู้หนึ่ง เรียกคดีนี้ว่า เป็น “ของขวัญอันน่าสะอิดสะเอียนและผู้รับไม่อยากจะรับ ซึ่งส่งให้แก่ราห์มอนตลอดจนคณะผู้นำชาวทาจิกทั้งหลายทั้งปวงในช่วงจังหวะเวลาที่อ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง”
**แรงเหวี่ยงที่กำลังสะสมตัว**
พวกนักข่าวท้องถิ่นและชาวทาจิกสามัญชน ต่างกำลังเรียกร้อง อิสโมนอฟ และผู้สมัครที่เป็นฝ่ายค้านคนอื่นๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน และเมื่อถูกไล่ต้อนจากพวกนักข่าวรวมทั้งดูเหมือนจะเกรงกลัวความกราดเกรี้ยวของสาธารณชน ก็ทำให้แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลบางคนยังต้องออกมาพูดมาแถลงสิ่งที่ถูกที่ควร
“ตามกฎหมายของทาจิกสถานนั้น ผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่ากำหนดต้องไม่มีสิทธิได้ใบขับขี่ และต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถ” อับดูจับบอร์ อาลิเอฟ (Abdujabbor Aliev) เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงศึกษาธิการแสดงความคิดเห็น เขากล่าวต่อไปว่า ทาจิกิสถานยังมีกฎหมายว่าด้วย “ความรับผิดชอบของผู้ปกครอง” ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของเด็กหนุ่มผู้นี้ควรที่จะต้องถูกนำตัวมารับผิดชอบด้วย
ตัวราห์มอนเองยังไม่ได้ถูกเล่นงานโดยตรงจากคดีนี้ ทว่าความเห็นในสื่อสังคมกำลังมีน้ำเสียงในทางเป็นปรปักษ์ต่อกลุ่มผู้คนวงในของประธานาธิบดีผู้นี้มากขึ้นทุกที
สมาชิกที่ใช้ชื่อว่า “อิมเพอเรเตอร์” (Imperator) ของเว็บโอดโนคลาสสนิกิ บอกว่า คนอย่างฮูตูนอฟ “คิดว่าโลกนี้สร้างขึ้นมาเพื่อพวกเขาเท่านั้น เหมือนกับว่าประชาชนคนอื่นๆ ไม่ได้มีชีวิตอยู่เลย”
มีบางความคิดเห็นเรียกร้องประชาชนอย่าได้ลงคะแนนเสียงเลือกราห์มอน ดังที่สมาชิกผู้ใช้ชื่อว่า ซาลิม รุสตัม (Salim Rustam) ของ โอดโนคลาสสนิกิ กล่าวเตือนว่า “ถ้าพวกเขาชนะเลือกตั้งในคราวนี้ มันก็จะเป็นจุดจบของทาจิกิสถาน” หรือสมาชิกอีกคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า “ครุชบัคต์” (Khushbakht) ซึ่งเรียกร้องว่า “อย่าออกเสียงเลือกคนพวกนี้”
ถึงแม้เป็นที่คาดหมายกันอยู่โดยทั่วไปแล้วว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงกิจการที่มีการจัดตั้งมีการวางหมากกันเอาไว้แล้ว และประธานาธิบดีผู้ดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานผู้นี้จะชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย
พวกนักการเมืองฝ่ายค้านดูเหมือนกำลังพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้ให้มากที่สุด ในขณะที่กำลังเกิดแรงเหวี่ยงสะสมตัวในทิศทางคัดค้านพวกชนชั้นปกครอง ขบวนการฝ่ายค้านที่ใช้ชื่อว่า “กรุปปา 24” (Gruppa 24) กำลังพยายามประคับประคองกระแสการถกเถียงเกี่ยวกับเหตุรถชนกันคราวนี้ไม่ให้จางหายไป โดยพยายามโพสต์ข้อเขียนและภาพที่เกี่ยวข้องขึ้นเว็บให้บ่อยที่สุด
ขณะที่ ราห์มาตุลโล ซอยรอฟ (Rahmatullo Zoirov) ผู้นำของพรรคโซเชียลเดโมแครต (Social Democrat Party) ซึ่งเป็นฝ่ายค้านชี้ว่า “ภายใต้ระบอบปกครองเผด็จการเบ็ดเสร็จของทาจิกิสถาน” พวกที่มีเส้นสายใหญ่โตแม้ก่อคดีอาญา ก็ยังมักสามารถหลุดรอดไปได้
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากจังหวะเวลาและความสนอกสนใจที่มีต่อเหตุการณ์นี้แล้ว มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำเช่นนั้น
รายงานนี้มาจาก เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี ( Radio Free Europe/Radio Liberty หรือ RFE/RL) ทั้งนี้ เรดิโอ ฟรี ยุโรป/เรดิโอ ลิเบอร์ตี เป็นกิจการกระจายเสียงที่ได้รับเงินทุนจากรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อเสนอข่าวสารข้อมูลและบทวิเคราะห์ไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันออก, เอเชียกลาง, และตะวันออกกลาง