องค์การอาหารโลกเผย ยังมีหลายประเทศ “อดอยาก” แต่สื่อ “เมิน”-ประชาชนไม่รับรู้

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – การที่ทั่วโลกกำลังประสบกับความขัดแย้งขึ้นในที่ต่างๆไม่หยุดไม่หย่อนย่อมหมายความว่า “เหล่าผู้บริจาคจะต้องไม่เหนื่อยล้ากับการเป็นผู้ให้” ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก (ดับบลิวเอฟพี) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันนี้ (16 ต.ค.) เป็นวันอาหารโลก

เออร์ธาริน คัสซิน กล่าวเตือนว่าองค์การกำลังขาดแคลนเงินช่วยเหลือพวกประเทศที่ถูกลืม ทว่ายังคงเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรมอยู่อย่างต่อเนื่อง เป็นต้นว่าเกาหลีเหนือ และเยเมน เนื่องจากผู้บริจาคมุ่งช่วยเหลือแต่ผู้ประสบภัยสงครามในซีเรีย ประเทศที่สื่อกำลังให้ความสนใจ และนำเสนอข่าวมากกว่า

“เหล่าผู้บริจาคจะต้องไม่ยอมเหนื่อยล้า” คัสซินกระตุ้นเตือนขณะให้สัมภาษณ์ในสำนักงานใหญ่ของโครงการอาหารโลก ที่กรุงโรม

“ความท้าทายอันใหญ่หลวงที่สุด คือการสร้างความมั่นใจว่า เราจะไม่หลงลืมความขัดแย้งต่างๆ ที่สื่อมวลชนมองข้ามและไม่ให้ความสนใจ” คัสซิน ผู้ซึ่งเป็นชาวเมืองชิคาโกโดยกำเนิด และอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในยุครัฐบาลบิล คลินตันเน้นย้ำ

“วิกฤตอาหารไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประเทศที่ประชาชนกำลังหิวโหย แต่ยังเป็นปัญหาท้าทายระดับโลกเลยทีเดียว”

ดับบลิวเอฟพีได้ส่งความช่วยเหลือให้ประชาชนราว 97 ล้านคนใน 80 ประเทศ รวมไปถึง 20 รัฐที่ต้องเผชิญความยากลำบากจากสถานการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ อย่างอัฟกานิสถาน เฮติ และซูดาน

ถึงแม้ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า จำนวนผู้หิวโหยทั่วโลกได้ลดลงแล้ว แต่ตัวเลขในเวลานี้ก็ยังคงสูงถึง 842 ล้านคน

เมื่อปีที่แล้วองค์การแห่งนี้ใช้เงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์ จากงบประมาณประจำปีราว 5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดซื้ออาหารสำหรับผู้ที่ขาดแคลนในกรณีฉุกเฉิน

“ความต้องการมักจะมีมากกว่าเงินบริจาคที่เราได้รับ” เธอกล่าวเสริมว่า “เราขาดแคลนเงินเกือบหนึ่งพันล้านดอลลาร์ทีเดียว เมื่อพิจารณาจากเมื่อพิจารณาจากเงินบริจาคที่เรามี กับที่เราคิดว่าเราจะต้องใช้”

“เราคาดการณ์ว่า ปีหน้าเราจะขาดแคลนเงินบริจาคยิ่งกว่านี้” คัสซินเผย ทั้งนี้เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกเมื่อปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสำนักงานสหประชาชาติในกรุงโรม

คัสซินเผยว่า ในช่วงที่เธอทำงานในโครงการอาหารโลกอยู่นี้ การให้ความช่วยเหลือแก่ซีเรียได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมากมายมโหฬาร โดยจากเดิมมีประชาชนได้รับความช่วยเหลือ 150,000 คน แต่ตอนนี้ต้องช่วยเหลือคนพลัดถิ่นในประเทศ และชาวซีเรียที่ลี้ภัยออกนอกประเทศรวมกว่า 6 ล้านคนแล้ว

กระนั้นคัสซินระบุว่า “เรายังคงรู้สึกกังวลมากกับประเทศอื่นๆ อย่างสาธารณรัฐแอฟริกากลาง และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่เรายังต้องช่วยเหลือต่อไป”

เธอชี้ว่า ที่เกาหลีเหนือ “หากไม่ได้รับเงินบริจาคเป็นจำนวนมากภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะถูกบังคับให้ต้องชะลอปฏิบัติการช่วยเหลือในปลายเดือนมกราคมเป็นต้นไป”

ส่วนที่เยเมน เธอกล่าวว่า ประชาชน 5 ล้านคนกำลังอดอยาก และเด็กครึ่งหนึ่งในประเทศนั้นก็เป็นโรคขาดสารอาหารเรื้อรัง แต่เงินบริจาคที่มีอยู่อาจจะหมดลงในตอนเริ่มต้นปีหน้า

“เป็นเพราะวิกฤตเหล่านี้ ไม่ขึ้นหน้าหนึ่ง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำให้คนรับรู้เท่าที่จะทำได้” เธอย้ำ

นอกจากนี้คัสซินยังบอกด้วยว่า เหตุเรือล่มที่เกาะลัมเปดูซาของอิตาลีเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้ผู้แสวงหาที่พักพิงชาวแอฟริกาต้องจมน้ำเสียชีวิตไป 364 คน น่าจะเป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่า ประเทศต้นทางกำลังต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น