เอเจนซี - ทีมนักประดาน้ำอิตาลีค้นพบศพที่ติดอยู่ในซากหักพังของเรือผู้ลี้ภัยแอฟริกาเพิ่มเติมในวันศุกร์(4) หลังเรือลำนี้อัปปางนอกชายฝั่งแคว้นซิซิลีเมื่อวันพฤหัสบดี(3) คร่าชีวิตผู้โดยสารอย่างน้อยๆ 300 ศพ หนึ่งในโศกนาฏกรรมเรือผู้อพยพล่มครั้งเลวร้ายที่สุดของยุโรป
จนถึงตอนนี้ทีมกู้ภัยสามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้แล้ว 111 ศพและคาดหมายว่าจะพบอีกจำนวนหลายร้อยที่จมอยู่ใต้ซากของเรือที่จมลงสู่ก้นทะเลลึกราว 47 เมตร ห่างจากชายฝั่งเกาะลัมเปดูซา ทางใต้ของอิตาลี ราว 1 กิโลเมตร
มีผู้รอดชีวิตราว 155 คนได้รับความช่วยเหลือขึ้นจากทะเลในวันพฤหัสบดี(3) แต่ด้วยคลื่นลมที่ผันผวนก็คาดหมายว่าปฏฺิบัติการกู้ศพคงเป็นไปอย่างยากลำบาก และแทบไม่มีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมจากผู้อพยพทั้งหมด 500 คนที่ล่องเรือข้ามมาจากตูนิเซีย "เรือยนต์ 2 ลำยังคงอยู่ในพืนที่ตลอดทั้งคืนและตอนเช้าวันนี้ทีมประดาน้ำก็กลับมาปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง ซึ่งเราคาดหมายว่าจะสามารถกู้ศพจากเรือได้อีกมากกว่า 100 ศพ" ฟลอเรียนา เซเกรโต เจ้าหน้าที่ชายฝั่งบอกกับรอยเตอร์
เรือลำดังกล่าวซึ่งบรรทุกผู้อพยพชาวเอริเรียและโซมาเลียเป็นส่วนใหญ่ เกิดไฟลุกไหม้ในวันพฤหัสบดี(3) ทำเอาผู้โดยสารที่ตื่นตระหนกพากันวิ่งหนีไปออกันอยู่ฝั่งเดียว จนเรือล่มและมีหลายคนที่ตัดสินใจกระโดดลงทะเลเพื่อเอาชีวิตรอด
อิตาลี ประกาศไว้ทุกข์แก่โศกนาฏกรรมนี้ 1 วันในวันศกร์(4) โดยโรงเรียนต่างๆพากันยืนสงบนิ่งหนึ่งนาทีเพื่อระลึกถึงเหยื่อเรืออัปปทาง ซึ่งเกิดขึ้นตามหลังเพิ่งเกิดเหตุเรืออัปปางจนคนอพยพจมน้ำเสียชีวิตนอกชายฝั่งเมืองซิซิลี 13 ราย เพียง 4 วัน
หลังจากเสด็จเดือนอัสซิซี สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ที่ทรงยกประเด็นชะตากรรมของคนอพยพแอฟริกันเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของพระองค์ ทรงบอกว่าเหตุเสียชีวิตที่ชายฝั่งเกาะลัมเปดูซา ย้ำถึงสภาวะตะเกียกตะกายของคนยากจนในโลกที่ป่าเถื่อน "วันนี้เป็นวันสำหรับการหลั่งน้ำตา"
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าเมื่อปีที่แล้วมีรายงานว่าประชาชนเกือบ 500 คนต้องจบชีวิตหรือไม่ก็สูญหาย ขณะกำลังล่องเรือข้ามจากตูนิเซียมายังอิตาลี และจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้เป็นผลสืบเนื่องจากมีผู้อพยพหลายหมื่นคนหลบหนีสงครามกลางเมืองออกมาจากซีเรีย
