เอเจนซีส์ - รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ของอังกฤษ ศาสตรจารย์ แอนดรูว์ แฮมมิลตัน เรียกร้องรัฐบาลอังกฤษอนุญาตให้มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ออกซ์ฟอร์ด สามารถขยายเพดานการเรียกเก็บเงินค่าเล่าเรียนด้วยเหตุผลทางด้านคุณภาพทางการศึกษา ที่ในปัจจุบันทางการอังกฤษอนุญาตให้เรียกเก็บสูงสุดอยู่ที่ 9,000 ปอนด์ต่อปี ในระดับปริญญาตรี และตัวเลขต้นทุนการให้การศึกษาที่แท้จริงของออกซฟอร์ดอยู่ที่ 16,000 ปอนด์ต่อปี
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ของอังกฤษ ศาสตรจารย์ แอนดรูว์ แฮมมิลตัน ได้กล่าวผ่านสุนทรพจน์ว่า สถาบันการศึกษาชั้นสูงควรสามารถเรียกเก็บค่าลงทะเบียนโดยสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ทางออกซ์ฟอร์ดถูกกำหนดให้เรียกเก็บได้สูงสุดเพียงแค่ 9,000 ปอนด์ ที่ได้เริ่มใช้ในเดือนกันยายน 2012 จากที่ก่อนหน้านั้นเพดานสูงสุดอยู่ที่ 7,000 ปอนด์ ในขณะที่ต้นทุนของมหาวิทยาลัยในการสอนระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 16,000 ปอนด์ต่อปี เป็นผลให้ทางมหาวิทยาลัยต้องขาดรายได้ไปถึง 70 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งตามจริงแล้วควรจะเป็นเงินที่ทางมหาวิทยาลัยสามารถนำไปพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาได้ โดยรายได้ส่วนใหญ่ที่เรียกเก็บมาจากค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้นของนักศึกษานั้นได้ถูกใช้ไปเพื่ออุดหนุนนทดแทนจากการที่รัฐบาลอังกฤษได้มีนโยบายรัดเข็มขัดทางการคลัง
นอกจากนี้ แฮมมิลตันยังอ้างว่า ในตลาดการศึกษาระดับสูงที่มีความหลากหลายทางด้านคุณภาพ ขนาด และชื่อเสียง มันดูเหมือนออกจะแปลกไปหน่อยที่ทุกแห่งถูกจำกัดให้ต้องเรียกเก็บได้ในอัตราที่เท่ากัน ซึ่งไม่แสดงให้เห็นถึงความต่าง และเขายังเสริมว่า มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกจะอยู่ในสภาพที่ถูกคุกคามอย่างหนักหากไม่มีเงินจำนวนมากพอมาสนับสนุน และนอกจากนี้นั้น สถาบันทางการศึกษาชั้นสูงสมควรที่จะ “สามารถเรียกเก็บเงินตาทคุณภาพที่มหาวิทยาลัยนั้นมีให้ได้กับนักศึกษา” ซึ่งแฮมมิลตันยืนยันว่า ไม่ควรจะนำปัจจัย “ค่าเล่าเรียนที่สูง” มาเป็นอุปสรรคในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย เพราะในปัจจุบันนี้ในสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะมีทั้งทุนการศึกษาและทุนกู้ยืมให้ความช่วยเหลือนักศึกษาอยู่ โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้นมีแหล่งเงินทุนช่วยเหลือที่มากเป็นพิเศษสำหรับนักศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มีรายได้น้อย
และท้ายสุด แฮมมิลตันไม่ได้ปิดโอกาสที่ทางออกซฟอร์ดจะระดมทุนจากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยการออกบอนด์ เหมือนเช่นที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และเขาได้ปฎิเสธถึงการข่าวที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเลือกปฎิบัติในการรับนักศึกษาเพื่อเข้าเรียน อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ ได้รายงานว่า ในปี2013มีจำนวนนักศึกษาผิวขาวได้รับเลือกเข้าศึกษาต่อยังคณะที่มีการแข่งขันสูงในออกซ์ฟอร์ดมากเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับนักศึกษาเชื้อชาติอื่น
อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำออกซ์ฟอร์ดได้กล่าวแก้ว่า สุนทรพจน์ของแฮมมิลตันไม่ได้สื่อความหมายที่ว่า นักศึกษาต้องเสียเงินค่าเรียนเพิ่มขึ้นถึง 16,000 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อช่วยอุดช่องว่างรายได้ของมหาวิทยาลัยที่หายไป