เอเจนซีส์ - “เอเปก” เปิดม่านเริ่มประชุมสุดยอดอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (7 ต.ค.) โดยมีจีนรับบทเด่นบนเวทีท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อึมครึม ส่วนหนึ่งจากการที่รัฐบาลอเมริกันเป็นอัมพาตต้องปิดหน่วยงานบางส่วน จากการห้ำหั่นอย่างไม่ไว้หน้ากันของนักการเมืองต่างแนวคิดซึ่งมีทีท่าอาจบานปลายต่อไปอีก จนกระทั่งส่งผลให้แดนอินทรีผิดนัดชำระหนี้ในเร็วๆ นี้ และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม
พวกผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ประกอบด้วยสมาชิก 21 ชาติและดินแดน ประชุมกัน 2 วันที่เกาะบาหลี ของอินโดนีเซียตั้งแต่วันจันทร์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา โดยมีการเรียกร้องการปฏิรูปเพื่อทำลายอุปสรรคการค้าและปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการประชุมในปีนี้ดูขรึมขลังลดลงไม่มากก็น้อยเมื่อขาดแขกสำคัญอย่างประธานาธิบดีบารัค โอบา ที่ตัดสินใจงดเข้าร่วมเพื่อติดตามแก้ไขวิกฤตงบประมาณและผ่าทางตันทางการเมืองในประเทศ
แม้จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำความมุ่งมั่นของโอบามาในการเกี่ยวดองกับเอเชีย-แปซิฟิก ทว่า การไร้เงาผู้นำทำเนียบขาวเท่ากับเป็นการส่งมอบเวทีให้จีนป่าวประกาศวาระของตัวเอง
“จีนจะค้ำจุนสนับสนุนอย่างมั่นคงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้แก่รากฐานที่จะก่อให้เกิดสถานการณ์แบบชนะกันทุกฝ่ายขึ้นมาในเอเชีย-แปซิฟิก” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวปราศรัยต่อเวทีธุรกิจเอเปกในวันจันทร์ ขณะที่เขาเน้นย้ำว่าประเทศของเขาคือคู่ค้าและตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดสำหรับประเทศจำนวนมากในภูมิภาคแถบนี้
คำปราศรัยของเขายังแสดงน้ำเสียงเรียกร้องความสามัคคีและการคืนดีกัน “จีนไม่สามารถที่จะพัฒนาอย่างโดดเดี่ยวในเอเชีย-แปซิฟิก และเอเชีย-แปซิฟิกก็ไม่สามารถเจริญรุ่งเรืองได้โดยปราศจากจีน” เขาบอก และระบุว่าการที่เศรษฐกิจแดนมังกรชะลอตัวในระยะหลังๆ นี้เป็นผลของความตั้งใจที่จะดำเนินนโยบายซึ่งมุ่งทำให้การเติบโตในอนาคตมีความยั่งยืนมากขึ้นกว่าเดิม
“พวกเราชาวจีนมักชอบพูดว่า ครอบครัวที่มีความปรองดองกันย่อมเจริญรุ่งเรือง ในฐานะที่เป็นสมาชิกรายหนึ่งในครอบครัวแห่งเอเชีย-แปซิฟิก จีนพร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตอย่างมีมิตรไมตรีกับสมาชิกอื่นๆ ของครอบครัวและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
คำพูดเหล่านี้ของสี เห็นได้ชัดว่ามุ่งปลอบโยนหลายๆ ชาติในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีความหวาดระแวงต่อท่าทีแข็งกร้าวของจีนในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนซึ่งพิพาทกันอยู่ ก่อนหน้าจะมายังบาหลี ประธานาธิบดีแดนมังกรยังได้แวะเยือนอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยที่มีการลงนามข้อตกลงทางธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ อีกทั้ง สี ยังโฆษณาข้อดีของการทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน
ทั้งนี้ จีนกำลังเข้าร่วมการเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าที่ประกอบด้วย 16 ชาติในเอเชียตะวันออก ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมถึงสหรัฐฯ ในขณะที่ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ที่สหรัฐฯเร่งผลักดันและครอบคลุม 12 ประเทศในเอเปกทว่าไม่มีแดนมังกรด้วยนั้น กลับปรากฏปัญหาฉกรรจ์ๆ
ในเวลาเดียวกับที่แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อชะตากรรมทางการเมืองของโอบามา พวกผู้นำของชาติพันธมิตรของสหรัฐฯในเอเปก เป็นต้นว่า สิงคโปร์ ก็ได้แสดงความผิดหวังที่โอบามาไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเอง เพื่อใช้อิทธิพลบารมีส่วนตัวในการผลักดันข้อตกลงทีพีพี ตลอดจนในการเพิ่มน้ำหนักให้แก่ยุทธศาสตร์ “ปักหมุด” ในเอเชียของวอชิงตัน
ทั้งชาติเพื่อนมิตรและชาติศัตรูคู่แข่งขัน ตลอดจนถึงตลาดการเงิน ต่างกำลังกังวลกับภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่าการปิดหน่วยงานบางแห่งของรัฐบาลสหรัฐฯในเวลานี้เสียอีก นั่นก็คือความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอเมริกันอาจผิดนัดชำระหนี้ หากรัฐสภาไม่ยอมอนุมัติการขยายเพดานการก่อหนี้ภายในวันที่ 17 นี้
ประธานาธิบดีเอนริเก เปนา เนย์โตแห่งเม็กซิโก กล่าวในที่ประชุมซัมมิตธุรกิจเอเปกว่า การผิดนัดชำระหนี้ของอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ถือครองสกุลเงินสำรองของโลกจะกระทบต่อ “โลกทั้งใบ” และความคิดเห็นนี้ได้รับการขานรับโดยวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย บนเวทีเดียวกัน
ทว่า เคร์รีที่ร่วมประชุมแทนโอบามาแก้ต่างว่า ศึกระหว่างทำเนียบขาวกับพรรครีพับลิกันเป็นเพียงสถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่งไม่ส่งผลต่อเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์การมุ่งเน้นเอเชียของสหรัฐฯแต่อย่างใด
กระนั้นก็ตาม ประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือศึกการเมืองในวอชิงตันเกิดขึ้นขณะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะที่คำแถลงของที่ประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปกระบุว่า “อ่อนแอเกินไป มีความเสี่ยงขาลง และแนวโน้มบ่งชี้การชะลอตัวและเสียศูนย์เกินคาด”
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย กล่าวว่า ถ้าหากโอบามาเข้าร่วมประชุมเอเปกก็จะเป็นโอกาสทองสำหรับอเมริกาและโอบามาในการแสดงความเป็นผู้นำในบริบทของการตอกย้ำนโยบายปักหมุดเอเชีย
ผู้นำแดนเสือเหลืองยังมองว่า การที่โอบามาแสดงความปรารถนาที่จะให้มีการบรรลุข้อตกลงทีพีพีภายในสิ้นปีนั้น เป็นกำหนดเวลาที่ “เร่งรัดเหลือเกิน” เมื่อพิจารณาจากความไม่ลงรอยกันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในประเด็นอย่างเรื่อง การเข้าถึงตลาดและการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา
อย่างไรก็ตาม เคร์รียังแสดงความเชื่อว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงตามกรอบเวลาดังกล่าวได้ และพยายามขายไอเดียว่า ข้อตกลงนี้จะสร้างการแข่งขันเพื่อให้ชาติสมาชิกบรรลุมาตรฐานระดับสูงสุด ควบคู่กับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ทางด้านชินโซ อาเบะ กล่าวกับผู้นำเอเปกคนอื่นๆ ว่า ญี่ปุ่นจะเดินหน้าปฏิรูปตามนโยบาย “อาเบะโนมิกส์” และให้สัญญาว่า การขึ้นภาษีการขายจะไม่กระทบการฟื้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ตนเริ่มฟูมฟักนับจากเข้ารับตำแหน่งปลายปีที่แล้ว
ผู้นำแดนอาทิตย์อุทัยยังให้ความมั่นใจกับประเทศเอเชีย โดยเฉพาะชาติที่เคยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นและเคยถูกญี่ปุ่นรุกรานก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า ความพยายามในการยกระดับกองทัพของญี่ปุ่นมีจุดหมายในการส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของโลกภายใต้บรรทัดฐานสากล ซึ่งประโยคหลังนี้ดูเหมือนต้องการพาดพิงถึงการที่จีนล่วงล้ำน่านน้ำที่เป็นกรณีพิพาทในทะเลจีนตะวันออกที่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศเย็นชาอย่างยิ่งมากว่าปี
เกี่ยวกับเรื่องนี้ หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงเมื่อวันจันทร์ว่า อเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ต้องไม่ใช้การเป็นพันธมิตรระหว่างพวกเขา เพื่อเป็นข้ออ้างในการแทรกแซงข้อพิพาทด้านดินแดน ไม่เช่นนั้นไม่เพียงจะทำให้ปัญหาซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ท่าทีของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนครั้งนี้มุ่งตอบโต้คำแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศสามชาติดังกล่าวที่ออกมาภายหลังการหารือของพวกเขาเมื่อวันศุกร์ (4) โดยมีเนื้อหาแสดงการคัดค้าน "การดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวหรือแบบบีบบังคับ” ที่อาจเปลี่ยนสถานะดั้งเดิมในทะเลจีนตะวันออก และเรียกร้องให้ผู้อ้างสิทธิ์ในข้อพิพาทด้านดินแดนในทะเลจีนใต้งดการกระทำที่บั่นทอนเสถียรภาพใดๆ