รอยเตอร์ – สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ประกาศยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี เพื่อรับมือปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือ, เครือข่ายก่อการร้าย, สงครามไซเบอร์ และภัยคุกคามอื่นๆ ในศตวรรษที่ 21 วันนี้ (3)
ข้อตกลงยกระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างทั้ง 2 ชาติ มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ หันมาใช้ยุทธศาสตร์เน้นความสำคัญของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จากเดิมที่สหรัฐฯพัวพันอยู่กับสงครามอัฟกานิสถานและอิรักมานานนับสิบปี
วอชิงตันหวังว่าความร่วมมือด้านการทหารระหว่างสหรัฐฯและญี่ปุ่นจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นในยุคของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยม และแสดงจุดยืนแข็งกร้าวในด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อพิพาทหมู่เกาะกับจีนหรือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือก็ตาม
ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ได้เดินทางไปยังกรุงโตเกียวเพื่อร่วมประชุม “2+2” กับรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟุมิโอะ คิชิดะ และรัฐมนตรีกลาโหม อิตสึโนริ โอโนะเดระ แห่งญี่ปุ่น โดย เฮเกล ได้เอ่ยในงานแถลงข่าววันนี้ (3) ว่า “จุดมุ่งหมายของเราคือการสร้างพันธมิตรที่สมดุลและมีศักยภาพยิ่งขึ้น”
ในถ้อยแถลงความยาว 10 หน้ากระดาษ สหรัฐฯและญี่ปุ่นให้คำมั่นสัญญาว่าจะทบทวนแนวปฏิบัติของความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1997, ประสานความร่วมมือเพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ และสหรัฐฯจะส่งเครื่องบินไร้คนขับ “โกลบอล ฮอว์ก” เข้าไปผลัดเปลี่ยนประจำการในญี่ปุ่นด้วย
รัฐมนตรีทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นชอบให้นำระบบเรดาร์ป้องกันขีปนาวุธ X-band ของสหรัฐฯ ไปติดตั้งที่ฐานทัพอากาศเกียวงามิซากิ จังหวัดเกียวโต ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น และประกาศเคลื่อนย้ายนาวิกโยธินอเมริกันจำนวน 5,000 นายออกจากโอกินาวาไปยังเกาะกวมอย่างเป็นทางการ
โครงการพัฒนาขีปนาวุธและระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ สร้างความหวั่นวิตกไม่น้อยต่อสหรัฐฯและพันธมิตรในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปียงยางยิงจรวดพิสัยไกลสำเร็จเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และยังทดลองระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าโสมแดงยังต้องทดสอบอีกหลายขั้นกว่าจะสามารถผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้
แม้แผนติดตั้งเรดาร์ป้องกันขีปนาวุธบนหมู่เกาะญี่ปุ่น และการเคลื่อนย้ายนาวิกโยธินสหรัฐฯไปยังเกาะกวม จะถูกประกาศออกมานานแล้ว แต่ถ้อยแถลงร่วมของบรรดารัฐมนตรีในวันนี้ (3) ถือเป็นครั้งแรกที่มีการระบุสถานที่ติดตั้งเรดาร์ ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการโยกย้ายทหารอเมริกันไปยังเกาะกวมและหมู่เกาะนอร์เทิร์นมารินา ซึ่งทางญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกด้วย
รัฐบาลโตเกียวยินยอมออกค่าใช้จ่าย 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยขนย้ายนาวิกโยธินสหรัฐฯออกไปจากเกาะโอกินาวา หลังจากทหารอเมริกันเหล่านี้เป็นต้นเหตุความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นกับชาวบ้านมานานหลายปี
ทั้งนี้ การถอนกำลังพลสหรัฐฯออกจากญี่ปุ่นคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า ระบบเรดาร์ซึ่งน่าจะติดตั้งสำเร็จภายใน 1 ปี จะช่วยให้สหรัฐฯและญี่ปุ่นสามารถตรวจจับและติดตามเส้นทางขีปนาวุธที่ถูกยิงมายังแผ่นดินทั้ง 2 ชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข้อตกลงฉบับนี้ยังกำหนดให้มีการจัดกำลังพลสหรัฐฯในญี่ปุ่นเสียใหม่ และคืนที่ดินบางส่วนแก่ชุมชน เพื่อลดความขัดแย้งกับชาวบ้านในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน