เอพี – เกาหลีใต้นำจรวดที่มีพิสัยทำการไกลที่สุดของตน โดยสามารถถล่มเกาหลีเหนือได้ทุกจุดทั่วประเทศ ตลอดจนอาวุธทรงพลังอื่นๆ ออกมาแสดงในการสวนสนามของเหล่าทหารในวันนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันกองทัพเกาหลีใต้ ทั้งนี้เห็นได้ชัดว่าการแสดงแสนยานุภาพเช่นนี้มุ่งที่จะเตือนเกาหลีเหนือว่า การออกมาขู่คุกคามใดๆก็ตามจะต้องถูกโต้กลับอย่างรุนแรง
งานเฉลิมฉลองเนื่องในวันกองทัพเกาหลีปีนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษ และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 และขู่จะก่อสงครามนิวเคลียร์เมื่อต้นปีนี้
มีทหารราว 11,000 คน ระบบอาวุธ 190 ระบบ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ ตลอดจนอากาศยาน 120 ลำ เข้าร่วมการสวนสนามในวันนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งทางใต้ของกรุงโซล โดยในบรรดาอาวุธประเภทต่างๆ ที่ถูกนำมาโชว์ มีจรวดร่อน “ฮยุนมู 3” ที่ใช้สัญญาณจีพีเอสนำทาง และมีพิสัยทำการ 1,000 กิโลเมตร ซึ่งโสมขาวพัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า วันนี้นับเป็นครั้งแรกที่กองทัพเปิดให้ประชาชนได้ชมจรวดฮยุนมู 3 ซึ่งเป็นอาวุธที่ประดิษฐ์ขึ้นเองในประเทศ
ทางด้านประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย กล่าวปราศรัยในพิธีสวนสนามวันนี้ว่า เกาหลีใต้ต้องรักษาความเป็นพันธมิตรอันแน่นแฟ้นกับสหรัฐฯ ตลอดจนต้องพัฒนาการขีดความสามารถของระบบป้องกันขีปนาวุธ ตลอดจนสมรรถนะในการเปิดฉากโจมตีก่อน เพื่อให้เกาหลีเหนือรู้ว่า “อาวุธนิวเคลียร์และจรวดที่พวกเขามัวแต่หมกมุ่นนั้นเป็นของไร้ประโยชน์”
“เราต้องสร้างกำลังการป้องปรามอันแข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือ จนกว่าพวกจะล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประชาชน และสันติสุขในคาบสมุทรเกาหลี” เธอกล่าวขณะที่ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐนั่งอยู่ใกล้ๆ
อาวุธอื่นๆ ที่ถูกนำออกมาแสดงเป็นครั้งแรกในวันนี้ (1) ยังมีดังเช่น ฮยุนมู-2 ซึ่งเป็นจรวดนำวิถี พิสัยทำการ 300 กิโลเมตร และจรวดสไปค์ที่ผลิตในอิสราเอล ซึ่งมุ่งทำลายล้างบรรดาปืนใหญ่ ที่ตั้งประจำชายฝั่งเกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้ได้ส่งจรวดสไปค์ไปประจำตามหมู่เกาะที่อยู่ในแนวหน้า หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ถล่มกระสุนปืนใหญ่ใส่เกาะหนึ่ง จนทำให้ผู้เสียชีวิตไป 4 รายเมื่อปี 2010
“มันเป็นวิธีการแสดงพลังอย่างหนึ่ง เหมือนที่เกาหลีเหนือเผยโฉมจรวดของพวกเขาในวันชาติ เราสามารถมองพิธีการวันนี้ในอารมณ์เดียวกันได้” ลี แดวู นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของสถาบันเอกชนเซจง ซึ่งอยู่ใกล้กรุงโซลชี้ “วันนี้เป็นวันกองทัพเกาหลีใต้ และชัดเจนว่า (เกาหลีใต้) กำลังแสดงให้เห็นว่าตนมีขีดความสามารถในการลงโทษ” เกาหลีเหนือ
เขากล่าวว่า คาดว่าเกาหลีเหนือจะออกมาตอบโต้การสวนสนามในวันนี้อย่างโกรธเกรี้ยว
โดยปกติแล้ว เกาหลีเหนือจะจัดการสวนสนามในวันชาติอย่างใหญ่โต และแสดงอิริยาบถอันเข้มแข็ง ด้วยการเดินตบเท้ายกขาสูงแบบทหารปรัสเซีย รวมทั้งนำอาวุธต่างๆ ออกมาจัดแสดง เพื่อเรียกคะแนนในตัวผู้นำประเทศจากสาธารณชน และเป็นการขู่ให้ชาติศัตรูเข็ดขยาดไปในตัว ถือเป็นหนึ่งในโอกาสที่มีเพียงไม่กี่ครั้ง ที่ต่างชาติจะได้เห็นกองทัพโสมแดง และอาวุธประเภทต่างๆ
ในวันนี้ (1) นอกจากการสวนสนามที่ฐานทัพอากาศตอนช่วงเช้าแล้ว ในตอนบ่ายกองทหารเกาหลีใต้ ขบวนรถถัง และปืนใหญ่ ตลอดจนจรวดซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยิง ยังเคลื่อนเข้ามาในตัวกรุงโซล ท่ามกลางเศษกระดาษสีขาวที่ปลิวไสวอยู่ในอากาศ และประชาชนจำนวนมากที่ออกมายืนรอดูกันตามท้องถนน พวกเขาพากันโบกสะบัดธงชาติเกาหลีใต้อันเล็กๆ เป็นการต้อนรับ ครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพเกาหลีใต้เดินสวนสนามผ่านถนนในกรุงโซล นับแต่ปี 2008
โดยปกติแล้ว โสมขาวจะจัดการเฉลิมฉลองวันกองทัพเกาหลีอย่างใหญ่โตทุกๆ 5 ปี เมื่อประธานาธิบดีคนใหม่ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2008 พิธีมีขนาดเล็กกว่านี้ โดยมีทหารในขบวนน้อยกว่า และจัดงานที่สนามกีฬาไม่ใช่ที่ฐานทัพอากาศ
ทั้งนี้ พัค เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยชูนโยบายที่ผสมผสานระหว่างการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อท่าทียั่วยุจากเกาหลีเหนือ กับความพยายามที่มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและชักจูงให้เกาหลีเหนือกลับมาร่วมเจรจากันอีกครั้ง
หลังจากช่วงเวลาปั่นป่วนวุ่นวายจากการขู่คุกคามในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา เกาหลีเหนือเริ่มลดท่าทีคุยโตโอ้อวดลง ทว่ายังคงเน้นย้ำว่าจะเสริมสร้างคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากสหรัฐฯ จากนั้นเกาหลีเหนือได้พยายามกลับมาร่วมมือกับเกาหลีใต้ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมแกซอง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนี้โสมแดงได้ยกเลิกงานรวมญาติของครอบครัวที่พลัดพรากจากกันเพราะสงครามเกาหลีอย่างกะทันหัน