เอพี - รัฐบาลซีเรียประกาศจะไม่ยอมรับแผนสันติภาพใดๆหากประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด ไม่มีส่วนร่วมอยู่ในนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย วาลิด อัล-มูอัลเลม เผยกับเอพีในการสัมภาษณ์เมื่อวานนี้(28) และพร้อมกันนั้น อัล-มูอัลเลมยังยืนยันถึงการต่อสายคุยกันเป็นครั้งแรกระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมาว่าไม่มีผลต่อซีเรียแต่อย่างใด
ในวันเสาร์(28)รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย วาลิด อัล-มูอัลเลม ได้กล่าวผ่านแถลงการในประชุมนอกรอบการประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติหนึ่งวันหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติได้อนุมัติแผนการที่ให้รัฐบาลซีเรียต้องทำลายคลังอาวุธเคมี ซึ่งแผนการของยูเอ็นครั้งนี้ยังรวมถึงการสนับสนุนมติข้อตกลงในครั้งที่การเจรจาสันติภาพเจนีวา ซึ่งเรียกว่า “รัฐบาลชั่วคราวที่มีอำนาจบริหารเต็ม” ระหว่างรัฐบาลซีเรียและกลุ่มกบฎซีเรียเมื่อมิถุนายน 2012
ในขณะเดียวกัน กลุ่มกบฏซีเรีย ที่มีการรบยืดเยื้อกับประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาดมาร่วม 2 ปีครึ่ง ได้กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า “ทางกลุ่มจะไม่ร่วมในรัฐบาลชั่วคราวหากมีอัสซาดรวมอยู่ด้วย”
และจากแถลงการล่าสุดจาก อัล-มูอัลเลม นั้นอาจตีความได้ว่า ความพยายามที่จะเปิดการคุยระหว่างกลุ่มกบฏและรัฐบาลอัสซาดเป็นครั้งที่2 ในปลายปี2013ที่เจนีวานี้ “อาจไม่เป็นผลสำเร็จ”
“สำหรับประชาชนซีเรีย บาชาร์ อัสซาดเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งและจะยังคงอยู่ในวาระจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปของซีเรียอีกครั้ง” อัล-มูอัลเลมกล่าว “ผู้สมัครรายอื่นสามารถลงแข่งขันการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนุญของซีเรัยได้” พร้อมกันนั้นเขากล่าวเน้นว่า มีเพียงแต่ประชาชนซีเรียเท่านั้นที่สามารถเลือกผู้นำประเทศซีเรียได้ ไม่ใช่รัฐบาลต่างชาติหรือกลุ่มกบฎที่มีฐานในต่างแดน
โดยที่ผ่านมา ทางกบฎได้กล่าวหารัฐบาลอัสซาดว่า ได้ทำร้ายประชาชนซีเรียโดยใช้แก๊ซซารีนในชานเมืองของกรุงดามัสกัสในวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา และทำให้มียอดผู้เสียชีวิตนับพันและรวมถึงเด็กชาวซีเรียนับร้อยที่ต้องตายไป อย่างไรก็ตามรัฐบาลซีเรียได้ปฎิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ แต่ทว่าได้ส่งสัญญาณว่าซีเรียจะเลิกการสะสมอาวุธเคมี นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียยังกล่าวย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลซีเรียนั้นเชื่อมั่นว่ากลุ่มกบฎต่อต้านอัสซาดนั้นมีส่วนเชื่องโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ “กลุ่มก่อการร้ายในซีเรียได้รับการสนับสนุนจากจากประเทศเพื่อนบ้านเช่น ตุรกี จอร์แดน และประเทศอาหรับ เช่น ซาอุดิอารเบีย และกาตาร์” อัล-มูอัลเลมกล่าว
อิหร่านเป็นมิตรสำคัญที่หนุนหลังอัสซาดอยู่ในขณะนี้ และทางกลุ่มกบฎได้อ้างว่า ทหารอิหร่านและนักรบภายใต้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์นั้นปฎิบัติการทางทหารในซีเรีย
และท้ายสุดอัล-มูอัลเลม ได้ย้ำถึงท่าที่ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่เริ่มต่อสายคุยกันในวันที่ 27 กันยายนนั้นไม่มีผลแต่อย่างใดกับซีเรีย ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มคุยกันครั้งแรกระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันของสหรัฐฯเป็นต้นมา “ซีเรียรู้สึกยินดีต่อการเริ่มต้นครั้งนี้ ซึ่งมันจะส่งผลทางบวกต่อวิสัยทัศน์ของอเมริกาต่อภูมิภาคนี้”