รอยเตอร์ – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติโหวตเป็นเอกฉันท์ รับรองร่างมติปลดอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย ซึ่งไม่มีการระบุบทลงโทษโดยอัตโนมัติต่อประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในกรณีที่ซีเรียไม่ปฏิบัติตาม วานนี้(27)
มติรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงทั้ง 15 ชาติ ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ หลังจากที่สหรัฐฯ และรัสเซียเจรจาต่อรองแก้ไขร่างมติกันอยู่นานหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้แนวปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับข้อตกลงปลดอาวุธเคมีซีเรียที่ 2 มหาอำนาจทำร่วมกันที่นครเจนีวา เมื่อต้นเดือนนี้
ความพยายามที่จะทำลายคลังอาวุธเคมีของอัสซาดเกิดขึ้น หลังเหตุการณ์สังหารหมู่พลเรือนกว่า 1,400 ศพที่กรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯและชาติตะวันตกเชื่อว่าเกิดจากอาวุธเคมีที่ทหารซีเรียนำมาใช้ ขณะที่ประธานาธิบดี อัสซาด และมหามิตรอย่างรัสเซียแย้งว่า เป็นแผนของกบฏที่ต้องการกระตุ้นต่างชาติให้เข้ามาแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรีย ซึ่งยืดเยื้อมากว่า 2 ปีครึ่ง
ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียนั้น ช่วยให้ซีเรียรอดพ้นจากปฏิบัติการโจมตีทางทหารของอเมริกามาได้อย่างหวุดหวิด
มติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นยังรับรองแผนถ่ายโอนอำนาจการเมืองที่ซีเรียยอมรับระหว่างการประชุมผู้แทนนานาชาติ ณ นครเจนีวา เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มุน แถลงหลังจากการโหวตสิ้นสุดลงว่า ชาติมหาอำนาจจะจัดการประชุมสันติภาพว่าด้วยกรณีซีเรียที่นครเจนีวาในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมย้ำว่า แผนกำจัดอาวุธเคมีซีเรียมิได้เป็น “ใบอนุญาต” ให้เข่นฆ่าประชาชนด้วย “อาวุธทั่วไป” แทนได้
“ขณะที่เรายินดีกับพัฒนาการก้าวสำคัญ ก็ต้องไม่ลืมว่าเหตุรุนแรงในซีเรียยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยระเบิด, รถถัง และปืน... การห้ามใช้อาวุธรูปแบบหนึ่งจะต้องมิใช่ไฟเขียวให้ใช้อาวุธประเภทอื่นๆแทนได้”
มติของยูเอ็นไม่ได้อนุญาตให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารลงโทษซีเรียโดยอัตโนมัติในกรณีที่ซีเรียแข็งขืน เนื่องจากรัสเซียยืนกรานว่า บทลงโทษใดๆ ก็ตามจะต้องมีการขอมติครั้งที่ 2 จากคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเสียก่อน
อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้รัสเซียต่อต้านร่างมตินี้มาโดยตลอดก็คือ การอ้างถึงบทบัญญัติที่ 7 ในกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งอนุมัติให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นออกคำสั่งใช้ปฏิบัติการทางทหารหรือมาตรการคว่ำบาตรได้
มอสโกแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ซึ่งก็เป็นลูกค้าอาวุธรายใหญ่ของรัสเซียอยู่ด้วย
ด้าน บาชาร์ จาฟารี ผู้แทนซีเรียประจำองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ตุรกี, ซาอุดีอาระเบีย, ฝรั่งเศส, กาตาร์ และสหรัฐฯ จะต้องปฏิบัติตามร่างมตินี้ และต้องถูกเอาผิดตามกฎหมายระหว่างประเทศ หากยังส่งความช่วยเหลือให้กบฏซีเรียอยู่
“คุณจะขนกลุ่มก่อการร้ายทั่วโลกเข้ามาในซีเรีย โดยอ้างคำว่า “ญิฮาด” และเสแสร้งว่าทำไปเพื่อสันติภาพนั้นไม่ได้” จาฟารี กล่าว
ผู้แทนซีเรียยืนยันว่า รัฐบาลดามัสกัสพร้อมที่จะเข้าประชุมสันติภาพที่นครเจนีวา ขณะที่ฝ่ายกบฏเองก็เผยท่าทีว่าอาจจะยอมเข้าร่วมด้วย