เอเอฟพี - วอลล์สตรีทเมื่อวันพุธ (18) พุ่งทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่และน้ำมันปิดบวกแรง หลังเฟดคงระดับกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ตามเดิม ขณะเดียวกัน ปัจจัยนี้เองก็พยุงให้ทองคำขยับลงในกรอบแคบๆ หลังจากช่วงหนึ่งซื้อขายแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เลยทีเดียว
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 147.21 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,676.94 จุด สูงสุดเป็นประวัติการณ์และเหนือกว่าราคาปิดสูงสุดตลอดกาลคราวก่อนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม อยู่ 18 จุด ส่วนเอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.76 จุด (1.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,725.52 จุด เหนือกว่าสถิติสูงสุดตลอดกาลเดิมที่เคยทำเอาไว้เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมเช่นกัน เกือบ 16 จุด
ด้านแนสแดค เพิ่มขึ้น 37.94 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,783.64 จุด ทั้งนี้ดัชนีทั้ง 3 ตัว ซื้อขายอยู่ในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะพุ่งทะยาน หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ มีถ้อยแถลงออกมาตอนเวลา 18.00 จีเอ็มที
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)เมื่อวันพุธ (18) สร้างความประหลาดใจแก่ตลาด ด้วยการมีมติคงระดับโปรแกรมเข้าซื้อพันธบัตรไว้ที่เดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ตามเดิม ขณะที่เหล่านักวิเคราะห์คาดหมายว่าเฟดน่าจะลดระดับของโครงการนี้ลงราวเดือนละ 10,000 ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ยังปรับลดประมาณการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าลง รวมทั้งแสดงความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างมากเมื่อไม่นานที่ผ่านมาได้ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงแล้ว
ด้วยที่เฟดระบุว่ายังไม่มีแผนลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นี้เอง ก็ช่วยพยุงราคาทองคำให้ปิดลบในกรอบแคบๆ หลังจากช่วงหนึ่งของการซื่อขายวานนี้ (18) แกว่งตัวอยู่ที่ราวๆ 1,300 ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์
โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,307.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ทองคำทะยานขึ้นไปถึง 55.60 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,365.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทั้งนี้ ปัจจัยเฟดคงระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือน ประกอบกับข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงที่ลดลงของสหรัฐฯ ก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้(18) พุ่งขึ้นอย่างแรง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันพุธ (18) ว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงถึง 4.4 ล้านบาร์เรล ผิดคาดกับที่นักวิเคราะห์กะเก็งเอาไว้ว่าจะลดลงแค่ราวๆ 1.2 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันแข็งแกร่งภายในชาติผู้บริโภคเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้
