เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งแรงอีกครั้งในวันอังคาร (17) จากข่าวลิเบีย กลับมาผลิตเชื้อเพลิงได้บางส่วน คลายความกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัว ส่วนทองคำขยับลง หลังคาดหมายว่าเฟดจะลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตร อย่างไรก็ตามด้วยนักลงทุนบางส่วนเชื่อมันว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะยืนหยัดอยู่ได้แม้ถูกตัดทอนมาตรการกระตุ้น ก็ผลักให้วอลล์สตรีท ปิดบวกแคบๆ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 1.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ราคาน้ำมันทรุดลงอย่างหนัก หลังจากน้ำมันดิบทั้งสองสัญญา ลดลงราว 1.60 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ (16) หลังสหรัฐฯและรัสเซีย บรรลุข้อตกลงปลดอาวุธเคมี ซึ่งช่วยคลี่คลายความกังวลทางอุปทานแก่ตลาด
“ตลาดน้ำมันยังคงอยู่ใต้อิทธิพลของข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย ในการกำจัดคลังอาวุธเคมีของซีเรีย” แอดดิสัน อาร์มสตอง จากเทรดิชัน เอเนอร์จี กล่าว “นอกจากนี้แล้วคำแถลงคืนสู่การผลิตน้ำมันบางส่วนของลิเบียก็อยู่ในความคำนึงของตลาด หลังจากสำนักข่าวแห่งรัฐรายงานว่าบ่อน้ำมัน 2 แห่ง ซึ่งผลิตน้ำมันรวมกว่า 400,000 บาร์เรลต่อวัน คืนสู่การผลิตอีกครั้ง”
ด้านราคาทองคำวานนี้ (17) ขยับลงพอสมควร หลังนักลงทุนกะเก็งว่าที่ประชุม 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่้งจะสิ้นสุดลงในวันพุธ(18) จะมีมติลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,309.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตามด้วยนักลงทุนบางส่วนยังเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยืนหยัดต้านทานกับการปรับลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้ (17) ปิดบวกเล็กน้อย
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 35.33 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,530.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.27 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,704.87 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 27.85 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,745.83 จุด