เอเอฟพี - วอลล์สตรีทพุ่งแรง ส่วนน้ำมันดิ่งหนักวานนี้(9) หลังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ขณะที่ปัจจัยนี้ประกอบกับความคาดเดาต่างๆนานาต่ออนาคตของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็เป็นผลให้ราคาทองคำปิดในกรอบแคบๆ
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 140.62 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,063.12 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.54 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,671.71 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 46.17 จุด (1.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,706.18 จุด
ตลาดในวันจันทร์(9) เปิดตัวแดนบวก จากแรงหนุนของข้อมูลการส่งออกอันแข็งแกร่งของจีน ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกกำลังมีช่วงเวลาที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากนั้นก็มีข่าวว่า รัสเซีย เสนอให้ซีเรีย ส่งมอบคลังอาวุธเคมีให้อยู่ในความควบคุมของนานาชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีโดยสหรัฐฯ
แม้ว่าสหรัฐฯจะแสดงปฏิกิริยาอย่างระมัดระวังต่อแผนดังกล่าว แต่ด้วยแผนใช้กำลังทหารโจมตีซีเรียของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เองก็ยังไม่แน่ว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้เองก็ช่วยหนุนให้ตลาดปิดบวกอย่างแกร่ง
ทั้งนี้ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจจะไม่ใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ตามหลังรัสเซียเสนอให้ดามัสกัส ส่งมอบการควบคุมคลังอาวุธเคมีแก่ผู้สังเกตการณ์นานาชาติ ก็ฉุดให้ราคาน้ำมันวานนี้(9) ดิ่งลงหนัก หลังจากช่วงสัปดาห์ที่แล้วพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 18 เดือน จากความกังวลต่อปฏิบัติการใช้กำลังทหารถล่มซีเรีย ตามข้อกล่าวหาใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันวานนี้(9) นักลงทุนพากันเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใสของจีนและญี่ปุ่น โดยโตเกียวปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวช่วงไตรมาส 2 เป็นร้อยละ 0.9 ส่วนปักกิ่งก็มียอดเกินดุลการค้ามากกว่าที่คาดหมายไว้
ด้านราคาทองคำวานนี้(9) ทรงตัว เหตุนักลงทุนจับตาแนวโน้มการใช้กำลังทหารต่อซีเรียของรัฐบาลสหรัฐฯ เช่นเดียวกับอนาคตของโครงการเข้าซื้อพันธมิตรรายเดือนของธนาคารกลางอเมริกา โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 1,386.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์