xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกันก็ส่ง“เรือพิฆาต”อีก1ลำไปทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมเป็น5ลำแล้วยังไม่นับ“เรือบรรทุกเครื่องบิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรือ ยูเอสเอส สเตาท์ (USS Stout) ซึ่งเป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี
เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - กองทัพเรือสหรัฐฯจัดส่งเรือพิฆาตอีกลำหนึ่งไปประจำยังด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว เจ้าหน้าที่กลาโหมอเมริกันบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี (29ส.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายที่จะว่าฝ่ายตะวันตกกำลังจะเปิดการโจมตีซีเรีย ถึงแม้อาจจะมีการชะลอออกไปอีกหลายวัน มิใช่ในสัปดาห์นี้อย่างที่คาดการณ์กันในตอนแรกๆ

เรือ ยูเอสเอส สเตาท์ (USS Stout) ซึ่งเป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี “อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยกำลังบ่ายหน้าและกำลังเคลื่อนที่ไปทางตะวันออก” เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเรือรบ มาฮัน (USS Mahan) เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวและบอกต่อไปว่า เรือรบทั้งสองลำนี้อาจจะอยู่ประจำในบริเวณดังกล่าวไประยะหนึ่ง

สำหรับเรือพิฆาตอเมริกันลำอื่นๆ ที่ประจำอยู่ในอาณาบริเวณนี้ อันได้แก่ ราเมจ (USS Ramage), แบร์รี (USS Barry), และ เกรเวลี (USS Gravely) กำลังแล่นไปๆ มาๆ อยู่ในเมดิเตอร์เรเนียนเช่นกัน และอาจเป็นผู้ทำหน้าที่ยิงจรวดร่อน “โทมาฮอว์ก” เข้าใส่ซีเรีย หากได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา

เจ้าหน้าที่กลาโหมผู้นี้ ซึ่งพูดในเงื่อนไขขอสงวนนาม ไม่ได้ระบุว่าเรือรบมาฮัน ยังจะอยู่ในบริเวณนี้ไปอีกนานเพียงใด ก่อนที่จะเดินทางกลับฐานของตนในเมืองนอร์โฟล์ก มลรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเรือรบลำนี้แล่นจากมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2012

ตามปกติแล้ว สหรัฐฯใช้เรือพิฆาต 3 ลำซึ่งสังกัดกับกองทัพเรือที่ 6 ของตน ทำหน้าที่แล่นตรวจการณ์ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยที่บทบาทสำคัญที่สุดของเรือรบเหล่านี้คือการป้องกันต่อต้านขีปนาวุธ

กองทัพเรือสหรัฐฯพยายามรักษาความลับอย่างกวดขันเกี่ยวกับจำนวนจรวดร่อนโทมาฮอว์กที่เรือพิฆาตเหล่านี้มีอยู่ แต่ประมาณการกันว่าอาจจะอยู่ในระดับ 45 ลูก

รัฐมนตรีกลาโหม ชัค เฮเกล ของสหรัฐฯ แถลงในวันพุธ (28ส.ค.) ว่า กองทัพสหรัฐฯพร้อมแล้วที่จะเปิดการโจมตี ทว่าประธานาธิบดีโอบามาเองกล่าวในวันเดียวกันว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้

มีสิ่งบ่งชี้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ฝ่ายตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ น่าจะยังไม่เปิดการโจมตีใส่ซีเรีย จนกว่าคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติซึ่งเดินทางเข้าไปตรวจสอบบริเวณชานกรุงดามัสกัส ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนหลายร้อยคนเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว จะทำงานเสร็จและจัดทำรายงานออกมา โดยที่ บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นกล่าวในวันพฤหัสบดี (29ส.ค.)ว่า คณะเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะตรวจสอบเสร็จในวันศุกร์ (30 ส.ค.) และจัดทำรายงานเสนอเขาในวันเสาร์ (31ส.ค.) ซึ่งเขาจะนำออกแจกจ่ายให้สมาชิกยูเอ็นต่อไป

เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯผู้นี้ยังบอกอีกว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน “นิมิตซ์” (USS Nimitz) ของอเมริกัน พร้อมด้วยหมู่เรือรบคุ้มกันและสนับสนุน ก็ยังคงอยู่อาณาบริเวณปฏิบัติการของกองทัพเรือที่ 5 ซึ่งมีขอบเขตตั้งแต่ทะเลแดงไปจนถึงอ่าวเปอร์เซียและทะเลอาหรับ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯอีกผู้หนึ่งเสริมว่า ขณะที่สหรัฐฯยังให้เรือนิมิตซ์อยู่ในอาณาบริเวณนี้ แต่เรือลำนี้ “ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางเลือกที่เป็นไปได้ต่างๆ เกี่ยวกับซีเรียในคราวนี้”

การที่สหรัฐฯส่งเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีอีก 1 ลำเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยิ่งตอกย้ำให้เห็นสถานการณ์ที่มหาอำนาจกำลังสร้างสมแสนยานุภาพในบริเวณนี้ โดยที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงในวันพฤหัสบดีว่า ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ “ไต้ฝุ่น” จำนวน 6 ลำไปยังฐานทัพอากาศอะโครติรี ของตนในประเทศไซปรัสแล้ว ทั้งนี้ไซปรัสอยู่ห่างจากชายฝั่งของซีเรียประมาณ 200 กิโลเมตร

โฆษกกระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงว่า การส่งเครื่องบินขับไล่ดังกล่าวไปยังไซปรัส เป็นเพียงการกระทำด้วยความสุขุมรอบคอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และการป้องกันพื้นที่ฐานทัพที่เป็นอธิปไตยของอังกฤษในเวลาที่กำลังเกิดความตึงเครียดในอาณาบริเวณดังกล่าวเท่านั้น

“เครื่องบินเหล่านี้ไม่ได้ถูกส่งมาประจำการเพื่อเข้าร่วมในการปฏิบัติการทางทหารเพื่อการเล่นงานซีเรียใดๆ” โฆษกผู้นี้ยืนยัน

ในอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียก็รายงานในวันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้สั่งการให้กองทัพส่งเรือรบ 2 ลำมุ่งหน้าสู่ทางด้านตะวันออกของเมดิเตอร์เรเนียน ไม่ไกลจากชายฝั่งของซีเรียแล้ว โดยที่อินเตอร์แฟกซ์ยังอ้างแหล่งข่าวในกองทัพรัสเซียระบุว่า เรือรบทั้ง 2 ได้แก่ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธ “มอสควา” (Moskva) ซึ่งเป็นเรือธงของกองทัพเรือทะเลดำของรัสเซีย ส่วนอีกลำหนึ่งเป็นเรือรบต่อต้านเรือดำน้ำ คาดว่าทั้งสองลำจะเดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

โฆษกกองทัพเรือรัสเซียได้ออกมาแถลงในเวลาต่อมาว่า การส่งเรือรบทั้งสองเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังทางนาวีตามปกติเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในซีเรีย
กำลังโหลดความคิดเห็น