เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (14) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯ และข้อมูลทางเศรษฐกิจในยุโรป โดยปัจจัยหลังนี้ก็ผลักให้ทองคำบวกพอสมควร ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ หลังมีความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับต่ำเกินไป
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 2 เซ็นต์ ปิดที่ 106.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ 109.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์ก มีขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองของประเทศรายสัปดาห์ โดยระบุว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 สิงหาคม สต๊อกน้ำมันดิบลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล ส่วนเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน การขยับขึ้นของราคาน้ำมันลอนดอน เป็นเพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน เมื่อพบว่าไตรมาสที่ผ่านมา มีการขยายตัวร้อยละ 0.3 หลังจากดำดิ่งอยู่ในภาวะถดถอยต่อเนื่อง 18 เดือน โดยในรายงานระบุด้วยว่าเศรษฐกิจเยอรมนี เติบโตร้อยละ 0.7 ส่วนฝรั่งเศส ขยายตัวร้อยละ 0.5
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (14) ขยับขึ้นพอสมควร ฟื้นตัวคืนมาได้เกือบทั้งหมด หลังจากดิ่งลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 12.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,333.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (14) ปิดลบในกรอบแคบๆ หลังมีความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้ออเมริกาอาจอยู่ในระดับต่ำเกินไป และผิดหวังต่อรายงานผลประกอบการด้านลบของห้างเมซีย์ส
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 113.51 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,337.50 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.80 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,685.36 จุด แนสแดคลดลง 15.17 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,669.27 จุด
อาร์ท มอร์แกน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธผลิตภัณฑ์ของสถาบันลาซาร์ด แคปิตอล มาร์เกตส์ บอกว่าดัชนีราคาผูผลิตเดือนกรกฎาคมทรงตัว ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีท เช่นเดียวกับรายงานผลประกอบการอันน่าผิดหวังของห้างเมซีย์ส ที่บ่งชี้ถึงภาพเศรษฐกิจอันอ่อนแอ