เอเจนซี/เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้ (24) ดิ่งหนัก ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากกรณีเฟดจะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนน้ำมันฟื้นตัวขยับขึ้นเล็กน้อยจากความกังวลทางอุปทาน ขณะที่ทองคำปิดลบพอสมควร หลังโกลด์แมนแซคส์คาดราคาจะปรับลงต่อเนื่องตลอดช่วง 2 ปีข้างหน้า
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 139.54 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,659.86 จุด แนสแดคลดลง 36.49 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,320.76 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.31 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,573.12 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงหนักทันทีที่เปิดตลาดจากความกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจจีนและกรณีธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ขีดเส้นม้วนเสื่อโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายตลาดพื้นตัวและแกว่งขึ้นไปปิดลบเพียงราวร้อยละ 1 หลังปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากร็อกเวลล์ โกลบอล แคปิตอล อ้างความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนที่บอกว่าธนาคารกลางแห่งนี้จะไม่ถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกในทันทีทันใด
ปัจจัยความกัวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเช่นกันในช่วงต้นของการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดตลาดพลังงานนิวยอร์กวานนี้ (24) ก็แกว่งขึ้นมาปิดบวกได้อย่างแข็งแกร่ง จากปัญหาท่อลำเลียงเชื้อเพลิงแคนาดารั่วจนต้องปิดปฏิบัติการ ก่อข้อวิตกเกี่ยวกับความยุ่งเหยิงทางอุปทานในอเมริกาเหนือ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ ปิดที่ 101.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ในส่วนของราคาน้ำมันลอนดอนที่ปิดบวกเพียงเล็กน้อย เหตุเพราะถูกบดบังด้วยตวามกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาสินเชื่อตึงตัวในจีน
ด้านทองคำวานนี้ (24) ปิดลบพอสมควร หลังโกลด์แมนแซคส์พยากรณ์ว่าราคาโลหะมีค่าชนิดนี้จะลดต่ำลงไปอีกในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยปรับตัวลดลง โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 14.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,277.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์