เอเอฟพี - ธนาคาร HSBC ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ด้วยการแจ้งปิดบัญชีของสถานกงสุลและสถานทูตกว่า 40 แห่งในอังกฤษ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสถานทูตแห่งนครรัฐวาติกันรวมอยู่ในที่นี้ด้วย โดยให้เวลาในการเคลื่อนย้ายเงินภายใน 60 วัน อ้างจากรายงานในวันอาทิตย์(4)
ในการที่ธนาคาร HSBC ต้องการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ด้วยการแจ้งปิดบัญชีสถานกงสุลและสถานทูตนั้น จากรายงานพบว่ามีสถานทูตและสถานกงสุลมากกว่า 40 แห่งที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงสถานทูตแห่งนครรัฐวาติกันอยู่ด้วย โดยการตัดสินใจของ HSBC ถือว่าเป็น “หายนะ” ในการทำธุรกรรมการเงินของกิจการสถานทูต
เรื่องมันเลวร้ายมากขึ้นเมื่อสถาบันการเงินอื่นปฎิเสธที่จะทำธุรกรรมกับสถานทูตที่ได้รับผลกระทบ จนกระทั่งกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้
“ทางการต่างประเทศอังกฤษได้ประสานงานกับธนาคาร HSBC ช่วยเหลือให้สถานทูตและสถานกงสุลที่ได้รับผลกระทบสามารถเปิดบัญชีกับธนาคารแห่งใหม่ได้” โฆษกหญิงแห่งกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี
อย่างไรก็ตาม ตามสนธิสัญญากรุงเวียนนาในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น อังกฤษไม่มีอำนาจในการบังคับให้ธนาคารเอกชนให้บริการ
เบอร์นาร์ด ซิลเวอร์ หัวหน้าแผนกจัดการภายในสถานทูตแห่งหนึ่งในอังกฤษเผยว่า “การตัดสินใจของ ธนาคาร HSBC ในครั้งนี้ “ส่งผลเลวร้าย” เป็นอย่างมากต่อกิจกรรมของสถานทูต ซึ่งทางสถานกงสุลและสถานทูตมีความจำเป็นมากที่ต้องมีบัญชีธนาคารในอังกฤษที่ไม่เฉพาะเพื่อจัดการเงินขอวีซ่าและพาสปอร์ต แต่ยังสำหรับการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานในสถานทูต ค่าเช่า หรือค่าธรรมเนียมในการขับรถเข้าเมือง (ในย่าน London Inner Ring road ของกรุงลอนดอน เกือบทุกคนที่จะขับผ่านย่านนั้นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรถติด) โดยทาง HSBC ไม่อธิบายอะไรเลย เพียงแค่บอกกำหนดระยะเวลาที่สามารถจะเคลื่อนย้ายเงินได้เท่านั้น
ซึ่งธนาคาร HSBC ประจำอังกฤษได้แจ้งว่า “ธนาคารได้ปฎิบัติต่อสถานทูตเสมือนกับที่ปฎิบัติต่อลูกค้านิติบุคคลอื่นๆ ตามเกณฑ์ 5 ข้อของธนาคารตั้งแต่ปี 2011 คือ การเชื่อมโยงนานาชาติ พัฒนาเศรษฐกิจ มีผลกำไร การลดต้นทุน และการมีสภาพคล่อง” โฆษกของธนาคาร HSBC เผยผ่านเอเอฟพี
และทางหนังสือพิมพ์ The Mail ได้รายงานในวันเสาร์ (4) ว่า หนึ่งในนักการทูตได้เผยว่าทาง ธนาคาร HSBC กลัวจะเกิดเหตุการณซ้ำรอยขึ้นที่ก่อนหน้านั้นทางธนาคารได้ถูกสหรัฐฯ ปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 1.92 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ฐานให้ความช่วยเหลือในการฟอกเงินของนักค้ายาเสพติดในแถบละตินอเมริก การช่วยเหลืออิหร่านและผู้ก่อการร้าย ซึ่งกิจกรรมทางการทูตนั้นทางธนาคารถือว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นผลทำให้อาจเกิดความเสี่ยงขึ้นได้ โดยที่ผ่านมา ธนาคาร Riggs National Bank ในวอชิงตันถูกปรับและภายหลังถูกขายกิจการ หลังจากรายงานของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในปี 2004 เปิดเผยว่าทางซีอีโอธนาคาร Riggs National Bankได้ช่วยเหลือเผด็จการชิลี พล.อ.ออกุซโต ปิโนเชต์ ซ่อนเงินนับล้านดอลลาร์ไว้