นายกฯ ไทย เยือนนครรัฐวาติกันครั้งแรกในรอบ 58 ปี เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ชมบทบาทคริสตจักรส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ยันสยามให้ทุกศาสนาประกอบพิธีได้อย่างเสรี
วันนี้ (12 ก.ย.) ที่นครรัฐวาติกัน เมื่อเวลา 11.10 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ณ พระราชวังสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส (His Holiness Pope Francis) โดยนายกฯ ได้แสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ไทย-วาติกัน ที่มีมาอย่างราบรื่น และเป็นการเยือนนครรัฐวาติกันในรอบ 58 ปีของนายกรัฐมนตรีไทย นับตั้งแต่การเยือนของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งเยือนครั้งแรกเมื่อปี 2498 พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวชื่นชมบทบาทของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่เคารพและเข้าใจในความหลากหลาย รัฐบาลไทยส่งเสริมให้คนทุกชาติและทุกศาสนา สามารถประกอบศาสนพิธีของตนได้อย่างเสรี และอยู่ร่วมกันในสังคมไทยได้ ชาวไทยที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกมีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปา ทรงยินดีต่อการให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาของไทย จากนั้นนายกฯและคณะพบหารือกับเลขาธิการนครรัฐวาติกัน
จากนั้น เวลา 15.10 น.นายกฯและคณะ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติ Malpensa นครมิลาน ร่วมสัมมนา “The Business Forum Thailand-Italy : Commercial and Investment Opportunities for Italian SMEs” ณ หอการค้าแห่งมิลาน และเข้าร่วมการหารือแบบ Exclusive Roundtable Discussion กับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำของอิตาลี
