เอเจนซีส์ – กระทรวงมหาดไทยอียิปต์แถลงในวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) ว่า กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี จะสามารถ “ออกไปอย่างปลอดภัย” หากยุติการชุมนุมประท้วงของพวกเขาในกรุงไคโร ขณะที่ตำรวจกำลังเตรียมตัวที่จะเข้ากวาดล้าง ภายหลังที่พวกผู้ภักดีต่ออดีตผู้นำอิสลามิสต์ซึ่งถูกฝ่ายทหารโค่นล้มยึดอำนาจเหล่านี้ ได้ยืนกรานก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ยอมจำนน รวมทั้งเตรียมระดมมวลชน “เรือนล้าน” วันศุกร์ (2) ด้านนักการทูตตะวันตกวิ่งวุ่นหวังเป็นตัวกลางยุติสถานการณ์นองเลือดในอียิปต์
กระทรวงมหาดไทยออกคำแถลงเรียกร้องให้พวกผู้ภักดีต่อมอร์ซี ซึ่งยังคงชุมนุมกันอยู่ที่จัตุรัสราบาอา อัล-อาดาวิยา และจัตุรัสนาห์ดา ในกรุงไคโร ยอมรับฟังเหตุผลและเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ แล้วรีบสลายตัวเสีย
คำแถลงบอกด้วยว่า การเรียกร้องนี้มีขึ้นหลังจากที่ในตอนเช้าวันเดียวกัน พวกผู้บังคับบัญชาตำรวจได้ประชุมหารือกันถึงวิธีการในการปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลชั่วคราวซึ่งแต่งตั้งโดยฝ่ายทหาร ให้ยุติการชุมนุมประท้วงของพวกผู้สนับสนุนผู้นำอิสลามิสต์เหล่านี้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น กลุ่มแนวร่วมที่ภักดีต่อมอร์ซี ประธานาธิบดีอียิปต์คนแรกที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีแต่มีโอกาสบริหารประเทศได้เพียงปีเดียว ได้ออกคำแถลงประณามการรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหาร พร้อมเรียกร้องให้เสรีชนทั่วโลกร่วมกันประท้วงอย่างสันติต่อการรัฐประหารในอียิปต์ในวันศุกร์นี้ (2) ซึ่งพวกเขาคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมนับล้านคน
คำแถลงยังประณามรัฐบาลชั่วคราวที่ออกคำสั่งให้ผู้ประท้วงสลายตัว พร้อมวิงวอนให้ทหารและตำรวจที่มีเกียรติทุกนายอย่าเข่นฆ่าพี่น้องร่วมชาติ
ทั้งนี้ รัฐบาลชั่วคราวได้ออกคำสั่งให้กระทรวงมหาดไทยเข้าสลายการชุมนุมตั้งแต่เมื่อบ่ายวันพุธ (31 ก.ค.) ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงรอบใหม่ หลังจากเพิ่งมีผู้เสียชีวิต 82 รายจากการปะทะในไคโรไม่ถึงสัปดาห์
คณะรัฐมนตรีรักษาการระบุว่า ไม่สามารถยอมให้สถานการณ์อันตรายในจัตุรัสตุรัสราบาอา อัล-อาดาวิยา และจัตุรัสนาห์ดา ยืดเยื้อต่อไป เช่นเดียวกับการก่อการร้ายและการปิดกั้นถนน ซึ่งล้วนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
“รัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อเผชิญหน้าและยุติอันตรายเหล่านี้ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามที่จำเป็นภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญของประเทศ”
สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ทำให้นานาชาติโดยเฉพาะโลกตะวันตก ต่างกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องรัฐบาลชั่วคราวของอียิปต์เคารพสิทธิและการชุมนุมอย่างสันติ
วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ต่อสายตรงถึงรองประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด เอลบาราดี ของอียิปต์ เรียกร้องให้ยุติการนองเลือดทันที รวมทั้งปล่อยตัวมอร์ซี
ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลประณามคำสั่งคณะรัฐมนตรีอียิปต์ ว่าเป็น “สูตรขยายการนองเลือด”
เคนเนธ โรธ ผู้อำนวยการบริหารฮิวแมน ไรต์ วอตช์ ก็ทวิตว่า “การประท้วงอย่างสันติไม่ใช่ภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ”
ทางด้าน กิโด เวสเตอร์เวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีที่เดินทางถึงไคโรในวันพุธ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและหาวิธีแก้ปัญหาที่ชัดเจน รวมทั้งกระตุ้นให้รัฐบาลอียิปต์งดเว้น “การให้ความเป็นธรรมแบบเลือกปฏิบัติ” ซึ่งพาดพิงถึงการจับกุมผู้นำอาวุโสบางคนของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมของมอร์ซี
นอกจากนี้ สหภาพยุโรป (อียู) ยังส่งเบอร์นาร์ดิโน ลีออน เข้าสานต่อภารกิจของแคทเธอลีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของอียู ซึ่งเดินทางเยือนอียิปต์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เพื่อหาทางช่วยคลี่คลายทางตันทางการเมืองในแดนไอยคุปต์
ที่จัตุรัสตุรัสราบาอา อัล-อาดาวิยาในวันพฤหัสบดี บรรยากาศยังคงสงบเงียบ ผู้สนับสนุนมอร์ซีหลายพันคนยังคงตั้งแคมป์ในจัตุรัสแห่งนี้ แม้กระทรวงมหาดไทยเตือนว่า จะสลายการชุมนุม “เร็วๆ นี้” แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า เมื่อใดหรืออย่างไร
สื่อมวลชนอียิปต์จำนวนมากสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาล บางแห่งถึงขั้นประกาศว่า คณะรัฐบาลชั่วคราวได้รับ “มอบอำนาจจากประชาชน” ซึ่งได้ออกมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (26 ก.ค.) เพื่อแสดงการสนับสนุนการโค่นล้มมอร์ซี
นับตั้งแต่ที่กองทัพเข้ายึดอำนาจโค่นล้มมอร์ซีเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ภายหลังที่ประชาชนผู้ไม่พอใจนโยบายของผู้นำอิสลามิสต์ผู้นี้ ได้ก่อการประท้วงต่อต้านกันทั่วประเทศ อียิปต์ก็ได้เกิดความรุนแรงระหว่างฝ่ายภักดีต่อมอร์ซีกับกองกำลังความมั่นคงและกลุ่มผู้ต่อต้านมอร์ซี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปรวมกว่า 250 คน
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดเมื่อแหล่งข่าวในแวดวงตุลาการเผยว่า ผู้นำระดับสูงหลายคนของกลุ่มภราดรภาพมุส ซึ่งรวมถึงโมฮัมเหม็ด บาดี ผู้นำสูงสุดที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี จะถูกดำเนินคดีข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการเผชิญหน้าในการประท้วงหน้าสำนักงานใหญ่ภราดรภาพมุสลิม เมื่อคืนวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ตัวมอร์ซีเองถูกกักตัวในสถานที่ลับนับจากถูกโค่นอำนาจ อย่างไรก็ดี กองทัพอียิปต์ยอมให้ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของอียูเข้าพบมอร์ซีเมื่อวันอังคาร โดยที่แอชตันออกมาเปิดเผยในภายหลังว่า อดีตประธานาธิบดีอียิปต์สุขสบายดี