รอยเตอร์ - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติร่างกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมวานนี้(31) เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้อิหร่านยุติกิจกรรมนิวเคลียร์ ก่อนว่าที่ประธานาธิบดี ฮัสซัน รอฮานี แห่งอิหร่านจะเข้าพิธีสาบานตนในวันอาทิตย์(4)
กฎหมายคว่ำบาตรซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ส.ส.ไปแบบสบายๆ 400 ต่อ 20 เสียง มุ่งสกัดกั้นการส่งออกน้ำมันดิบอิหร่านให้ลดลงอีกวันละ 1 ล้านบาร์เรลเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งนับเป็นกฎหมายคว่ำบาตรฉบับแรกที่สหรัฐฯ ระบุเป้าหมายกีดกันการส่งออกที่ชัดเจน
กฎหมายฉบับนี้ยังกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงต่อลูกค้าน้ำมันอิหร่านที่ไม่ยอมแสวงหาทางเลือกอื่น, จำกัดการเข้าถึงแหล่งทุนต่างประเทศสำหรับอิหร่าน และมีบทลงโทษต่อประเทศที่ยังค้าขายกับเตหะรานในด้านอื่นๆด้วย
คำสั่งคว่ำบาตรของสหรัฐฯและสหภาพยุโรป (อียู) ที่ผ่านๆมา ทำให้อิหร่านขายน้ำมันได้น้อยลงกว่าครึ่งอยู่แล้ว เนื่องจากลูกค้าน้ำมันรายใหญ่อย่างจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ถูกวอชิงตันบีบให้หันไปพึ่งพาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นแทน
ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังมีเสถียรภาพช่วยให้สหรัฐฯ สามารถคงมาตรการคว่ำบาตรต่อไปได้ แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า หากยังปล่อยให้น้ำมันดิบอิหร่านขาดตลาดเช่นนี้ ราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศพันธมิตรสหรัฐฯเองด้วย
แหล่งข่าวจากโรงกลั่นน้ำมันในเกาหลีใต้ให้ความเห็นว่า “สหรัฐฯทำเช่นนี้ไม่ต่างจากการห้ามนำเข้าน้ำมันอิหร่านโดยสิ้นเชิง... ผมเชื่อว่าเราคงหาน้ำมันจากที่อื่นมาทดแทนได้ แต่เรายังพอใจน้ำมันดิบอิหร่านมากกว่า ถ้าน้ำมันอิหร่านในตลาดน้อยลงกว่านี้ ราคาโดยรวมอาจจะพุ่งสูงขึ้น”
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายคว่ำบาตรยังต้องรอผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐฯอีกขั้นหนึ่ง ก่อนส่งไปให้ประธานาธิบดีโอบามาลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมาย