เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - หลังจากมีคดียืดเยื้ออย่างยาวนานกว่า 20 ปี ศาลอินเดียได้ตัดสินให้พระธิดาทั้ง 2 พระองค์ซึ่งอยู่ในวัย 80 พรรษาของมหาราชาแห่งฟาริดคอตที่สิ้นพระชนน์ชีพไปแล้วนั้น ได้รับมรดกมูลค่าราว 4.2 พันล้านดอลลาร์ ที่รวมไปถึงป้อมปราการ พระราชวัง เงินสดและอื่นๆ เหตุเพราะสามารถพิสูจน์ได้ว่าพินัยกรรมของมหาราชาได้ถูกปลอมมากว่า 30 ปีโดยมหาดเล็กและทนายความ แถลงการจากทนายประจำพระองค์ของเจ้าหญิง แถลงจากทนายความประจำพระองค์ของเจ้าหญิงในวันจันทร์(29)
ศาลเมืองจันฑิการห์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียได้ตัดสินคดีที่ยืดเย้อยาวนานกว่า 20 ปี ในความขัดแย้งเรื่องมรดกของมหาราชา ฮารินเดอร์ ซิงห์ บราร์ เจ้าผู้ปกครองแคว้นฟาริดคอตที่ได้สิ้นพระชนน์ไปในปี 1989 เมื่อพระองค์ได้ 74 พรรษา ไม่นานหลังจากการสิ้นพระชนน์ของเจ้าชายทิกกีพระโอรสในอุบัติเหตุทางรถยนต์
ผู้พิพากษาในคดีนี้ได้ตัดสินในวันเสาร์(28)ว่าพินัยกรรมของมหาราชาแห่งฟาริดคอตนั้นถูกทำปลอมขึ้นเพื่ออ้างสิทธิ์การครอบครองมรดกของมหาราชาให้กับทรัสเมฮาร์วาล เควาจี ที่ตั้งขึ้นตามพินัยกรรมปลอมภายใต้การจัดการของเจ้าหญิงมาฮีปินเดอร์ กัวร์ พระธิดาองค์สุดท้องซึ่งสิ้นพระชนน์ชีพไปแล้วเมื่อ 62 พรรษาในปี 2001 รวมถึงมหาดเล็กและทนายความ โดยทิ้งเพียงเงินรายเดือนประมาณ 735 ดอลลาร์ให้กับพระธิดาของมหาราชา โดยมหาดเล็กและทีมทนายความได้ร่วมกันทำปลอมพินัยกรรมขึ้นไม่กี่ปีก่อนที่มหาราชาจะสิ้นพระชนน์
โดยในพินัยกรรมปลอมนั้น ไม่ระบุให้สมาชิกของราชสกุลแห่งฟาริดคอตมีสิทธิชอบธรรมในการรับมรดกโดยตรงแต่อย่างใด ทรัพย์สินของมหาราชาที่รวมไปถึงป้อมปราการ พระราชวัง อสังหาริมทรัพย์ เงินสด เพชรพลอย รถยนต์โรสรอย เครื่องบินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เก็บรักษาในแอโรโดรมที่เมืองแฟริคอต
ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดของมหาราชานั้นจะตกแก่ทายาทที่ชอบธรรมตากฏหมายคือเจ้าหญิงทั้ง 3 พระองค์ซึ่งหนึ่งในนั้นได้สิ้นพระชนน์ชีพไปแล้ว
“เราชนะคดีหลังจากรอมานานกว่า 21 ปี” วิคาส เยน ทนายความประจำพระองค์ของเจ้าหญิงอาร์มิต กัวร์ผู้เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง เผยกับเอเอฟพีในวันจันทร์(29)
มหาราชาแห่งฟาริดคอตเรื่องชื่อในการมีทรัพย์สินมหาศาลก่อนที่อินเดียจะประกาศอิสรภาพจากอังกฤษในปี 1947
รัฐบาลอินเดียในปี 1971 ได้แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุไม่ให้สิทธิพิเศษหรือรายได้แก่เชื้อพระวงศ์อินเดียที่ยังหลงเหลืออยู่
จึงทำให้เหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ของราชสกุลต่างๆในอินเดียเมื่อหมดสิ้นเงินทองและชีวิตที่หรูหรา จำต้องเปลี่ยนวังและป้อมต่างๆให้กลายเป็นโรงแรมเพื่อทำให้เกิดรายได้
