เอเอฟพี - ผู้ดูแลกฎระเบียบด้านการบินของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (25) มีคำแนะนำใหม่ให้สายการบินต่างๆ ควรถอดหรือตรวจสอบเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินของเครื่องบินโบอิ้ง 787 หลังเกิดปัญหาใหม่ไฟลุกไหม้บนดรีมไลเนอร์ลำหนึ่งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) ออกคําสั่งความสมควรเดินอากาศ(Airworthiness Directives หรือ AD) ใหม่ล่าสุดนี้ ก็เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการป้องกันไว้ก่อนต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับไฟบอกสัญญาณบนเครื่องบินล้ำสมัยของโบอิ้ง
“AD นี้ ต้องการให้ถอดรื้อหรือไม่ก็ตรวจสอบ อุปกรณ์ส่งสัญญาณฉุกเฉินเพื่อแจ้งตำแหน่งเครื่องตก(อีแอลที)และดำเนินการแก้ไขถ้ามีความจำเป็น”
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ แจ้งต่อสายการบินต่างๆ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์(20) ทางเอฟเอเอ ออกคําสั่งความสมควรเดินอากาศ เพียงขอให้สายการบินต่างๆ แค่ตรวจสอบเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินนี้เท่านั้น
โดยสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ บอกว่า คำสั่ง AD ใหม่นี้เป็นผลมาจากมีรายงานว่าเหตุไฟไหม้นั้นเกี่ยวข้องกับเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินอีแอลทีที่ผลิตโดยบริษัทฮันนีเวลล์ “เราออกคำสั่ง AD นี้ ก็เพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้บริเวณส่วนหน้าของเครื่องบิน รวมถึงเพื่อตรวจสอบและแก้ไขความบกพร่องภายในอีแอลที ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้”
ความเคลื่อนไหวตรวจสอบเป็นผลสืบเนื่องตามหลังเกิดเหตุไฟไหม้บนเครื่องบินโบอิ้ง 787 ของสายการบินแอธิโอเบีย ที่จอดอยู่กลางลานบินท่าอากาศยานธีทโธรว์ของลอนดอนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เคราะห์ดีที่เป็นเครื่องบินเปล่า จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานตรวจสอบอุบัติภัยทางอากาศของอังกฤษ (เอเอไอบี) แนะนำให้ปิดเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉิน (Emergency Location Transmitter - ELT) บนเครื่องบินโบอิ้งดรีมไลเนอร์ทุกลำ หลังตรวจพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวอาจเป็นต้นเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว
ประเด็นความบกพร่องของเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินได้เพิ่มเติมความกังวลด้านความปลอดภัยของดรีมไลเนอร์ หลังจากที่ฝูงบินโบอื้ง787 เคยถูกสั่งระงับการบินทั่วโลกไปเมื่อต้นปี เนื่องจากตรวจพบความผิดปกติในแบตเตอรีลิเธียมไอออน ซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หลายต่อหลายครั้ง และเพิ่งได้รับอนุมัติให้กลับมาขึ้นบินเมื่อเดือนเมษายน หลังปรับปรุงแก้ไขระบบแบตเตอรีแล้ว