xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจสอบอังกฤษแนะโบอิ้งปิด “เครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉิน” บนดรีมไลเนอร์-ชี้อาจเป็นเหตุไฟไหม้ที่ฮีทโธรว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โบอิ้ง 787 ของสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ส ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ระหว่างร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เอเอฟพี - ผู้ตรวจสอบความปลอดภัยของอังกฤษแนะนำให้ปิดเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉิน (Emergency Location Transmitter - ELT)บนเครื่องบินโบอิ้งดรีมไลเนอร์ทุกลำ หลังตรวจพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวอาจเป็นต้นเหตุเพลิงไหม้บนโบอิ้ง 787 ของสายการบินเอธิโอเปีย ซึ่งลงจอดที่สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สำนักงานผู้ตรวจสอบอุบัติเหตุด้านการบิน (เอเอไอบี) ระบุว่า จากการตรวจสอบอุปกรณ์ “อีแอลที” บนโบอิ้ง 787 ที่ผลิตโดยบริษัทฮันนีเวลล์ พบ “เหตุขัดข้องบางประการในแบตเตอรี”

“อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถระบุชัดเจนว่า กระบวนการเผาไหม้ในอุปกรณ์อีแอลทีเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานภายในแบตเตอรี หรือเกิดจากกลไกภายนอก เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร” เอเอไอบี ระบุ

ระหว่างรอการสอบสวนเพิ่มเติม เอเอไอบีแนะนำให้ถอดอุปกรณ์ส่งสัญญาณของฮันนีเวลล์ออกจาก โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ทุกลำ และให้ผู้ตรวจสอบการบินเข้ามาตรวจอุปกรณ์ส่งสัญญาณฉุกเฉินที่ใช้แบตเตอรีลิเธียมบนเครื่องบินรุ่นอื่นๆด้วย

ด้าน โบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตดรีมไลเนอร์ มีถ้อยแถลงสนับสนุนคำแนะนำของเอเอไออี “ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นมาตรการป้องกันที่เหมาะสม ระหว่างที่กระบวนการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้น”

แม้ว่าเหตุเพลิงไหม้บนสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์สที่ลงจอดโดยไม่มีผู้โดยสารยังสนามบินฮีทโธรว์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม จะไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เป็นปัญหาที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือของโบอิ้งอีกครั้ง หลังจากที่ฝูงบินดรีมไลเนอร์เคยถูกสั่งระงับการบินทั่วโลกไปเมื่อต้นปี เนื่องจากตรวจพบความผิดปกติในแบตเตอรีลิเธียมไอออน ซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้

ปัจจุบันโบอิ้งได้ส่งมอบดรีมไลเนอร์แก่สายการบินทั่วโลกแล้วทั้งสิ้น 68 ลำ ซึ่งเอเอไอบีก็แนะนำให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) สั่นถอดอุปกรณ์อีแอลทีออกจากเครื่องบินเหล่านี้ทันที และให้ผู้ตรวจสอบการบินทั่วโลกเข้าไปตรวจดูอุปกรณ์ส่งสัญญาณฉุกเฉินที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรีลิเธียมในเครื่องบินรุ่นอื่นๆด้วย

ทั้งนี้ คำแนะนำจากเอเอไอบีไม่ได้หมายความว่า ดรีมไลเนอร์จะต้องถูกระงับบินอีกครั้ง

สหรัฐฯ มีกฎให้เครื่องบินโดยสารทุกลำต้องติดตั้งสัญญาณค้นหาฉุกเฉิน แต่หากจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ดังกล่าว ก็ยังสามารถขึ้นบินได้ตามปกติไม่เกิน 90 วัน ซึ่งระเบียบดังกล่าวเป็นมาตรฐานที่ใช้กับสายการบินยุโรปและภูมิภาคอื่นๆด้วย
ร่องรอยเพลิงไหม้ใกล้กับส่วนหางของเครื่องบิน
กำลังโหลดความคิดเห็น