เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - สหรัฐฯ เป็นแกนนำชาติตะวันตกในการเรียกร้องให้ องค์การสหประชาชาติออกมาตรการที่รุนแรงขึ้น เพื่อคว่ำบาตรอิหร่าน ที่จัดหาอาวุธให้กับซีเรีย และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านในเลบานอน
ข้อเรียกร้องเหล่านี้มีขึ้นหลังจากที่รัสเซียได้ออกมาสกัดกั้นมติอย่างเป็นเอกฉันท์ของคณะทำงานชุดหนึ่งของยูเอ็นว่า การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วนั้น ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ทั้งนี้จากการเปิดเผยของพวกนักการทูตในยูเอ็น
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมากระตุ้นให้คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นและคณะกรรมการคว่ำบาตรของคณะมนตรี จัดการกับอิหร่านซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรการขององค์การสหประชาชาติ “ให้เข้มงวดมากขึ้น”
“คณะกรรมการยังควรที่จะพูดถึงกรณีที่อิหร่านจัดส่งอาวุธ การสนับสนุนทางทหาร การส่งที่ปรึกษา และการจัดฝึกอบรมให้แก่กลุ่มต่างๆ ทั้งในซีเรีย เลบานอน กาซา เยเมน อิรัก และประเทศอื่นๆ อย่างไม่ขาดสาย” โรสแมรี ดีคาร์โล รักษาการเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติระบุ
อิหร่านได้ส่งอาวุธให้รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดมาเป็นเวลานานแล้ว “โดยที่รู้อยู่แล้วว่าอาวุธเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในการสังหารหมู่ชาวซีเรีย” ดีคาร์โล แถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง
การยึดอาวุธของอิหร่านที่บริเวณนอกชายฝั่งของเยเมนเมื่อเดือนมกราคม “เป็นสิ่งที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเพียงแค่การฝ่าฝืนมติคว่ำบาตร มันเป็นการกระทำที่ก้าวร้าวเพื่อที่จะบ่อนทำลายรัฐบาลรักษาการของเยเมน” นักการทูตของสหรัฐฯ ผู้นี้กล่าว
เรือลำดังกล่าวถูกหน่วยรักษาชายฝั่งของเยเมนสกัดได้ ที่ทะเลอาระเบียเมื่อวันที่ 23 มกราคม
เธอแถลงต่อไปว่า คณะมนตรีความมั่นคงต้องเร่งจัดการกับเรื่องที่อิหร่านส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธอื่นๆ ตลอดจนควรพิจารณาถึงผลกระทบที่จะมีต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะเลบานอน ซึ่งเกิดจากการกระทำครั้งนี้ของอิหร่าน
สำหรับ มาร์ก ลียอลล์ แกรนท์ เอกอัครราชทูตของอังกฤษประจำองค์การสหประชาชาติ อภิปรายว่า “มีข้อมูลที่ทำให้เชื่อได้ว่า อิหร่านกำลังจัดส่งการสนับสนุนทั้งทางทหารอย่างสำคัญ และทางการเงิน แก่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์และระบอบการปกครองซีเรียในลักษณะที่เป็นการละเมิดข้อห้ามของยูเอ็นที่ไม่ให้อิหร่านส่งออกอาวุธ
ฟิลิป แบร์ตู ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของฝรั่งเศส ได้แถลงด้วยว่าคณะมนตรีจะต้อง “แสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่” เพื่อจัดการที่อิหร่านฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ อิหร่านกำลังเผชิญกับการถูกคว่ำบาตรอย่างกว้างขวางในเรื่องโครงการนิวเคลียร์และคณะผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นได้ตัดสินเมื่อเดือนมกราคมว่า การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธชาฮับเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ คณะทูตบอก
อย่างไรก็ตาม รัสเซียซึ่งมีจีนเป็นผู้หนุนหลังได้ออกมาต่อต้านสกัดกั้นไม่ให้มีการตีพิมพ์รายงานของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะได้รับฉันทามติ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียและชาวจีนจะอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย คณะทูตกล่าว
แกรี ควินแลน เอกอัครราชทูตของออสเตรเลียประจำยูเอ็น ผู้ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการคว่ำบาตรอิหร่าน ของคณะมนตรีความมั่นคง กล่าวเพียงว่ามีสมาชิกบางชาติที่ไม่สนับสนุนความเห็นของคณะผู้เชี่ยวชาญ
ลียอลล์ แกรนท์ จากอังกฤษเสนอว่าคณะมนตรีความมั่นคงควรจะเพิ่มชื่อบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธเข้าไปในรายชื่อผู้ที่ถูกองค์การสหประชาชาติคว่ำบาตรด้วย ขณะที่ดิคาร์โลจากสหรัฐฯ กล่าวว่าการปล่อยขีปนาวุธเป็นการ “ฝ่าฝืนอย่างชัดเจน” ต่อมติของยูเอ็น
ทางด้าน เปตร อิลยิเชฟ อัครราชทูตของรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติ กล่าวเพียงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการฝ่าฝืน แต่เขาไม่ได้ยืนยันว่าประเทศของเขาสกัดกั้นไม่ให้ตีพิมพ์รายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญ แต่ได้ระบุว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการคว่ำบาตรจะต้องตั้งอยู่บนฐานของ “ข้อมูลที่พิสูจน์ได้และน่าเชื่อถือ”
หวัง หมิน อัครราชทูตของจีนประจำยูเอ็นแถลงคล้ายๆ กันว่าประเทศจีน “ไม่ต้องการเพิ่มแรงกดดันหรือออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆ กับอิหร่าน”
ในการประชุมครั้งนี้ ไม่มีผู้แทนจากประเทศอิหร่านเข้าร่วมด้วย
