รอยเตอร์ - นักบินเอเชียนาแอร์ไลน์สไม่ได้สั่งอพยพผู้โดยสารทันที หลังประสบอุบัติเหตุตกกระแทกรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโกเมื่อวันเสาร์(6) จนกระทั่งพนักงานต้อนรับคนหนึ่งสังเกตเห็นเปลวไฟลุกไหม้ที่นอกตัวเครื่องจึงได้มีคำสั่งอพยพออกมา เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยขนส่งสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้(10)
เดบราห์ เฮอร์สแมน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) เปิดเผยว่า นักบินได้ออกคำสั่งอพยพผู้โดยสารหลังจากเครื่องตกกระแทกพื้นได้ 90 วินาที ขณะที่รถฉุกเฉินของสนามบินแล่นเข้ามาถึงในอีก 30 วินาทีหลังจากนั้น
อุบัติเหตุที่เกิดกับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของเอเชียนาแอร์ไลน์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 180 คน
ในการแถลงข่าวครั้งที่ 4 เฮอร์สแมน ระบุว่า พนักงานต้อนรับ 3 คนที่นั่งอยู่ด้านหลังถูกดีดออกจากเครื่องบิน หลังจากที่ส่วนหางกระแทกกับกำแพงกันคลื่นจนฉีกขาดออก ส่วนพนักงานต้อนรับอีก 2 คนยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องโดยสาร ขณะที่เบาะลม 2 จุดถูกกางออกจากตัวเครื่อง
ประธาน NTSB ชี้ว่า การสั่งอพยพผู้โดยสารทันทีไม่ใช่แนวทางปฏิบัติอันเป็นมาตรฐาน หรือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมสำหรับนักบินเสมอไป
“นักบินแจ้งว่า พวกเขาพยายามที่จะควบคุมเครื่อง... เราไม่ทราบว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ในเวลานั้น แต่ดิฉันบอกได้ว่า ที่ผ่านมาเวลาเครื่องบินประสบอุบัติเหตุ บางครั้งลูกเรือจะไม่อพยพในทันที แต่รอให้ลูกเรือคนอื่นๆมาถึงเสียก่อน” เฮอร์สแมน กล่าว
ระเบียบด้านความปลอดภัยการบินกำหนดให้การอพยพผู้โดยสารทุกคนลงจากเครื่องในกรณีฉุกเฉินควรกระทำภายใน 90 วินาที
จากการสัมภาษณ์พนักงานต้อนรับ 6 คนได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตอนแรกยังไม่เกิดเพลิงไหม้ในตัวเครื่องบิน แต่ระหว่างที่อพยพคนไฟก็เริ่มลุกลามเข้ามาในห้องโดยสาร พนักงานต้อนรับพยายามใช้ถังดับเพลิงควบคุมเอาไว้ก่อน แม้ว่าหน่วยกู้ภัยจะเริ่มมาถึงแล้วก็ตาม
พนักงานต้อนรับที่เหลืออีก 6 คนยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และยังไม่ได้ถูกสอบถามแต่อย่างใด
นักบินคนหนึ่งอ้างว่า มีแสงจ้าสะท้อนเข้าตาจนมองไม่เห็นอะไรขณะที่เครื่องอยู่เหนือพื้นดินราว 150 เมตรเพื่อจะลงจอด แต่ เฮอร์สแมน ก็ไม่ได้เสนอข้อสันนิษฐานว่า อะไรน่าจะเป็นต้นตอของแสงดังกล่าว