นักบินเอเชียนาใช้ “คันเร่งอัตโนมัติ” ขณะลงจอด-มองไม่เห็นรันเวย์ก่อนตกกระแทกพื้น

เอเจนซีส์ - นักบินบนเครื่องโบอิ้ง 777 ของสายการบินเอเชียนาแอร์ไลน์สใช้ระบบคันเร่งอัตโนมัติควบคุมความเร็ว และมองไม่เห็นรันเวย์ก่อนที่เครื่องจะตกกระแทกพื้นสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโกเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา เจ้าหน้าที่สอบสวนสหรัฐฯแถลงวานนี้(9)

ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังมุ่งสืบหาความจริงว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือไม่ ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่า แม้แต่ “นักบินครูฝึก” ที่อยู่บนเครื่องก็เพิ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นครั้งแรก

เดบราห์ เฮอร์สแมน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ระบุว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำนักบินทั้ง 4 คนบนสายการบินเอเชียนาแอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ 214 แล้ว ซึ่งทุกคนต่างยืนยันว่า ได้พยายามหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมจนสุดความสามารถ

เฮอร์สแมน ชี้ว่า นักบินใช้ระบบคันเร่งอัตโนมัติ (auto-throttle system) ควบคุมความเร็ว และไม่ได้ตระหนักว่าเครื่องบินลดระดับต่ำเกินไป จนกระทั่งอยู่เหนือพื้นดินเพียงราวๆ 200 ฟุต (60 เมตร) ซึ่งรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลกล่องดำซึ่งบ่งชี้ว่า เครื่องบินใช้ความเร็วต่ำกว่าที่กำหนดถึง 25% ขณะลงจอด

ลี คัง กุก นักบินที่หนึ่งซึ่งนำเครื่องลงจอดเมื่อวันเสาร์(6) ยังอยู่ระหว่างฝึกบินโบอิ้ง 777 ขณะที่ครูฝึกของเขาก็เพิ่งจะทำหน้าที่เป็นครั้งแรก และทั้งสองยังไม่เคยบินร่วมกันมาก่อน

“นักบินผู้ช่วย (relief first officer) ซึ่งนั่งอยู่ในห้องนักบินบอกว่า เขามองไม่เห็นรันเวย์จากจุดที่เขานั่ง เนื่องจากหัวเครื่องบินเชิดขึ้น” และหลังจากที่นักบินครูฝึกได้แจ้งไปยังหอควบคุมการบินว่า เครื่องลดระดับลงมาอยู่ที่ 500 ฟุต (ราว 150 เมตร) “พวกเขาจึงได้ตระหนักว่าบินต่ำเกินไป” เฮอร์สแมน เล่าเหตุการณ์ระทึกภายในห้องนักบินเพียงช่วงไม่กี่วินาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ

“เมื่อครูฝึกจะหันไปดันคันเร่ง ก็พบว่านักบินอีกคนได้ทำไปแล้ว”

ด้านนักบินคนที่ 4 (relief Captain) ไม่ได้อยู่ภายในห้องควบคุมขณะที่เครื่องกำลังจะตก

ก่อนหน้านี้ NTSB ระบุว่า นักบินคนหนึ่งได้แจ้งขอยกเลิกลงจอดเพียง 1.5 วินาทีก่อนที่เครื่องจะตกกระแทกรันเวย์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป

ส่วนหางของเครื่องบินชนเข้ากับกำแพงกันคลื่นของสนามบินซึ่งยื่นออกไปในอ่าวซานฟรานซิสโก ทำให้เครื่องบินเสียหลักและลื่นไถลไปกับรันเวย์ ก่อนจะระเบิดลุกเป็นไฟ

ผลการตรวจสอบซากเครื่องบินพบว่า คันเร่งอัตโนมัติถูกเปิดใช้งานขณะที่ลงจอด แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดปัญหาขัดข้องบางประการก่อนที่เครื่องจะสูญเสียการควบคุมและตกกระแทกพื้นหรือไม่ ซึ่ง เฮอร์สแมน ชี้ว่า “เราคงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า คันเร่งอัตโนมัติถูกใช้งานอย่างไร”

เอเชียนาแอร์ไลน์ส ระบุว่า ลี คัง-กุก ผู้ทำหน้าที่นักบินที่หนึ่ง แม้ยังอยู่ระหว่างฝึกบินโบอิ้ง 777 แต่ในอดีตก็เคยนำเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลงจอดที่สนามบินซานฟรานซิสโกมาแล้วถึง 29 ครั้ง

อย่างไรก็ดี ประธาน NTSB พบว่า นักบินครูฝึกซึ่งแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่ามีประสบการณ์บินถึง 13,000 ชั่วโมง และเคยควบคุมโบอิ้ง 777 มาแล้ว 3,000 ชั่วโมง เพิ่งจะเคยทำหน้าที่ครูฝึก “เป็นครั้งแรก”

โรงพยาบาลซานฟรานซิสโก แถลงวานนี้(9)ว่า อาการของผู้บาดเจ็บ 5 รายในอุบัติเหตุเครื่องบินเอเชียนาตกกระแทกพื้น ยังอยู่ในขั้นวิกฤต

เอเชียนาแอร์ไลน์สออกมาแถลงปกป้องว่านักบินของตนเอง “มีประสบการณ์ช่ำชอง” ขณะที่ ยูน ยัง-ดู ประธานสายการบิน เตรียมเดินทางไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยขนส่งของสหรัฐฯ และเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บ