เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สถานการณ์น้ำท่วมในยุโรปกลางยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุดทางการเยอรมนีสั่งอพยพประชาชนหลายพันคนในเมืองทางตะวันออกเมื่อวานนี้ (9) หลังเขื่อนที่กั้นแม่น้ำเอลเบแตก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องปล่อยให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อรักษาเมืองเอาไว้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนยังจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีก
เมืองแมกเดบวร์ก (Magdeburg) ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดในเยอรมนีตะวันออก เจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้ชาวเมืองราว 15,000 คนอพยพโดยด่วน หลังระดับน้ำในแม่น้ำเอลเบเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 7.48 เมตร เกินกว่าระดับปกติประมาณ 5 เมตร และสูงยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่เยอรมนีเผชิญเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2002
เขื่อนที่กั้นระหว่างแม่น้ำเอลเบกับแม่น้ำซาลล์ทางตอนใต้ของเมืองแมกเดบวร์กเกิดแตกอย่างกะทันหัน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเสริมความมั่นคงแล้วก็ตาม ขณะที่หน่วยกู้ภัยเตือนว่าคันกั้นน้ำก็เริ่มเกิดรอยร้าว และอาจต้องรับแรงดันมากขึ้นจากมวลน้ำที่จะยังไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันข้างหน้า
“เราหวังว่าคันกั้นน้ำจะสามารถรับแรงกดดันได้ในอีก 2-3 วันนี้ แต่ก็ยังมั่นใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” อันเดรียส ฮามานน์ โฆษกสำนักงานดับเพลิง แถลง
แม้ทางการจะระบุว่า คำสั่งอพยพเป็นเพียงมาตรการป้องกันล่วงหน้า แต่โฆษกเมืองแมกเดบวร์กกลับยืนยันว่า “ประชาชนควรจะอพยพทันที” ทำให้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีคำสั่งอพยพชาวบ้านในเมืองแมกเดบวร์กรวม 23,000 คนแล้ว
เจ้าหน้าที่เยอรมนีแถลงว่า ชาวบ้านกว่า 8,000 คนถูกนำขึ้นรถบัสออกจากหมู่บ้านรอบๆ เมืองอาเคน (Aken) ทางตอนใต้ของเมืองแมกเดบวร์ก บางรายยังนำสัตว์เลี้ยงและสัตว์ในฟาร์มของตนไปด้วย
ทางการเยอรมนีต้องระดมอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในหลายพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมจนกลายสภาพเป็นทะเลสีโคลน ขณะที่ ส.ส.เมืองเบียร์ผู้หนึ่งชี้ว่า อุทกภัยครั้งนี้สร้างความเสียหายนับพันล้านยูโร และถือเป็น “หายนะของชาติ”
แม่น้ำดานูบซึ่งไหลผ่านกรุงบูดาเปสต์ของฮังการีก็มีระดับน้ำเพิ่มสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่นายกเทศมนตรี อิสต์วาน ทาร์ลอส ยังพยายามลดความกังวลของประชาชนโดยชี้ว่าระดับน้ำเริ่มเสถียรแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็ได้ซ่อมแซมคันกั้นน้ำที่เสียหายแล้วด้วย แต่ชาวบ้านราว 1,200 คนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยังได้รับคำเตือนให้อพยพเพื่อความปลอดภัย
ด้านสวิตเซอร์แลนด์ แม้ยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมหันตภัยน้ำท่วมครั้งนี้ แต่เมื่อเวลาราว 18.00 น. (23.00 น. วานนี้ตามเวลาในไทย) ได้เกิดพายุฝนและลูกเห็บตกที่รัฐโวด์ (Vaud) และฟริบูร์ (Fribourg) ก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มจนถนนและเส้นทางรถไฟไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
มหาอุทกภัยในภูมิภาคยุโรปกลางคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 18 รายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในออสเตรีย, เยอรมนี, สโลวาเกีย, โปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก