รอยเตอร์ – การทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัทโบอิ้ง ยังไม่ประสบความสำเร็จ วานนี้(5) และถือเป็นความล้มเหลวครั้งที่ 3 ต่อเนื่องกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลง
“เจ้าหน้าที่โครงการจะเร่งตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุของความบกพร่อง ซึ่งทำให้การสกัดกั้นจรวดพิสัยไกลไม่ประสบความสำเร็จ” ถ้อยแถลงจากเพนตากอน ระบุ
กองทัพสหรัฐฯ เคยทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธแบบ ground-based midcourse มาแล้ว 16 ครั้ง ประสบความสำเร็จเพียง 8 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2008
เพนตากอนแถลงในสัปดาห์นี้ว่า ผลการทดสอบล่าสุดจะไม่กระทบต่อนโยบายพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ ซึ่งรัฐมนตรีกลาโหม ชัค เฮเกล เป็นผู้ประกาศในเดือนมีนาคม หลังจากที่เกาหลีเหนือเริ่มแสดงท่าทีคุกคามอเมริกาและพันธมิตรในเอเชียตะวันออกมากขึ้น
ตามแผนของ เฮเกล วอชิงตันจะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธเพิ่มเติมอีก 14 จุด ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณสูงเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจุบัน สหรัฐฯมีขีปนาวุธสกัดกั้นติดตั้งอยู่ 26 จุดที่เมือง ฟอร์ท กรีลีย์ มลรัฐอะแลสกา และอีก 4 จุดที่ฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย
ในการทดสอบเมื่อวานนี้(5) สหรัฐฯได้ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลจากฐานทดสอบรีแกน บนเกาะปะการัง Kwajalein Atoll ในสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชล ส่วนขีปนาวุธสกัดกั้นถูกยิงจากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก