เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดการยิงปืนต่อสู้กันซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บขึ้นในกรุงไคโร ขณะที่พวกผู้สนับสนุนจำนวนหลายพันคนของประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี แห่งอียิปต์ผู้ถูกโค่นลงจากตำแหน่ง เดินขบวนไปยังกองบัญชาการของกองกำลังรีพับลิกันการ์ด (กองพลทหารรักษาเมืองหลวง) ในระหว่างการจัดการชุมนุมของฝ่ายนี้ในวันนี้ (5ก.ค.) เพื่อแสดงการปฏิเสธไม่ยอมรับการยึดอำนาจของฝ่ายทหาร
ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีรายงานว่า มีผู้ถูกสังหารไปอย่างน้อย 3 คน และคนอื่นๆ อีกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่พวกอิสลามิสต์ผู้สนับสนุนมอร์ซีพากันเดินขบวนเข้าไปใกล้ๆ กองบัญชาการแห่งนั้น พร้อมกับพากันตะโกนคำขวัญว่า “พวกขายชาติ” และ “มอร์ซีคือประธานาธิบดีของเรา”
ผู้ประท้วงเหล่านี้เคลื่อนกำลังมุ่งสู่กองบัญชาการกองกำลังรีพับลิกันการ์ด ด้วยการเดินเท้าจากสถานที่ชุมนุมของขบวนการภราดรภาพมุสลิม ในจัตุรัสมัสยิดราบาอา อัล-อาดาวิยา ของกรุงไคโร ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมได้หลายหมื่นคน
ก่อนหน้าการชุมนุมของฝ่ายนี้จะเริ่มขึ้นไม่นานนัก ได้มีเครื่องบินไอพ่นของทหารจำนวนสิบกว่าลำบินโฉบในระยะต่ำไปทั่วทั้งกรุงไคโร หนึ่งวันหลังจากที่เครื่องบินเหล่านี้เพิ่งจัดการบินสวนสนามซึ่งมีการปล่อยควันออกมาเป็นรูปหัวใจกลางท้องฟ้า
อย่างไรก็ตาม การสำแดงกำลังเช่นนี้ประสบความล้มเหลวไม่สามารถทำให้พวกผู้สนับสนุนมอร์ซีเปลี่ยนใจได้
ประธานาธิบดีผู้ถูกโค่นล้มผู้นี้ ซึ่งไม่ได้มีผู้พบเห็นตัวนับตั้งแต่วันพุธ (3 ก.ค.) ได้ออกมาเรียกร้องอย่างท้าทายให้พวกผู้สนับสนุนดำเนินการปกป้อง “ความถูกต้องชอบธรรม” ที่มาจากการเลือกตั้งของเขา ในคำปราศรัยที่บันทึกเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า และถูกนำออกเผยแพร่ออกอากาศหลังจากที่เขาถูกยึดอำนาจไปแล้วหลายชั่วโมง
ฝ่ายทหารนั้นประกาศว่า เคารพสิทธิของฝ่ายสนับสนุนมอร์ซีที่จะจัดการประท้วงอย่างสงบ แต่ก็เตือนว่าอย่าาได้ก่อความรุนแรง ตลอดจนแสดงพฤติการณ์อารยะขัดขืนอย่างเช่นการปิดกั้นถนนหนทาง
นอกจากนั้น กองทัพยังมีการเตรียมพร้อมระดับสูงในบริเวณคาบสมุทรซีนายที่เกิดความไม่สงบอยู่เป็นประจำ เป็นการเพิ่มการรักษาความมั่นคงปลอดภัยหลังจากที่พวกอิสลามิสต์ติดอาวุธ ได้เข้าโจมตีด้วยปืนกลและจรวด ซึ่งทำให้ทหารผู้หนึ่งเสียชีวิต
มีรายงานด้วยว่า ยังเกิดการปะทะกันในจังหวัดชาร์กิยะ ซึ่งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญสูงสุด อับลี มันซูร์ วัย 67 ปี สาบานตนในวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) เพื่อเป็นประธานาธิบดีรักษาการชั่วคราวไปจนกว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่
มันซูร์ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีกัน ในการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศก่อนหน้าการจัดชุมนุมของพวกอิสลามิสต์ในวันศุกร์
“ทั้งหมดที่ผมสามารถบอกกับประชาชนชาวอียิปต์ได้ก็คือ เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เราเกิดการแตกแยกมามากพอแล้ว” เขาบอกกับสถานโทรทัศน์แชนเนล 4 ของอังกฤษ
“กลุ่มภราดรภาพมุสลิมก็เป็นส่วนหนึ่งแห่งผืนผ้าของสังคมอียิปต์ พวกเขาเป็นหนึ่งในฝ่ายต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมนี้ พวกเขาได้รับเชื้อเชิญให้เข้าบูรณาการอยู่ในประเทศชาตินี้ และกลายเป็นส่วนซึ่งอยู่ในประเทศชาติแห่งนี้”
ทางด้าน โมฮาเหม็ด เอลบาราเด อดีตผู้อำนวยการทบวงพลังปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำคนสำคัญคนหนึ่งของฝ่ายเสรีนิยมในอียิปต์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้องแก้ต่างให้แก่การเข้ายึดอำนาจของฝ่ายทหาร
“เราต้องขอให้กองทัพเข้าแทรกแซงเนื่องจากทางเลือกอื่นอีกทางหนึ่งก็คือสงครามกลางเมือง เรากำลังอยู่ตรงระหว่างก้อนหิน (ข้างหนึ่ง ) กับที่ซึ่งแข็งกระด้าง(อีกข้างหนึ่ง) และประชาชนจำเป็นที่จะต้องเข้าใจเรื่องนี้” เอลบาราเด ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพพร้อมกับไอเออีเอ องค์กรชำนัญพิเศษด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ บอกกับโทรทัศน์บีบีซี
ก่อนหน้าการชุมนุมประท้วงของพวกผู้สนับสนุนมอร์ซี กองทัพได้ออกมาเตือนชาวอียิปต์ว่า ไม่ต้องการกลับคืนไปสู่ “การใช้มาตรการเผด็จอำนาจอันควรเป็นข้อยกเว้นเท่านั้น ในการจัดการกับกลุ่มการเมืองใดๆ ก็ตามที”
“กองทัพเชื่อว่า ธรรมชาติและคุณสมบัติแห่งการให้อภัยของประชาชนชาวอียิปต์ และคุณค่าอันดำรงอยู่ตลอดกาลของอิสลาม ไม่อนุญาตให้เราหันไปหาการแก้แค้นและความละโมบโอ้อวด” คำแถลงของกองทัพระบุ ถึงแม้กองกำลังความมั่นคงได้ออกกวาดจับพวกบุคคลสำคัญของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม
ฝ่ายอิสลามิสต์นั้นกล่าวหาว่ากองทัพกำลังทำรัฐประหารยึดอำนาจอย่างโจ่งแจ้งจากมอร์ซี ผู้เป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยคนแรกของอียิปต์ ภายหลังที่เกิดการประท้วงที่มีผู้คนเข้าร่วมนับล้านๆ คน เพื่อเรียกร้องให้ขับไล่เขาลงจากตำแหน่ง
ทั้งนี้พล.อ.อับเดล ฟัตตอห์ อัล-ซิซี ผู้บัญชาการกองทัพอียิปต์ ได้ประกาศโค่นมอร์ซีในคืนวันพุธ โดยยกเหตุผลว่าผู้นำอิสลามิสต์ผู้นี้ไร้ความสามารถที่จะยุติวิกฤตทางการเมืองซึ่งกำลังร้าวลึกและแผ่ขยายกว้างออกไปทุกที
แหล่งข่าวหลายฝ่ายระบุว่ามอร์ซีถูกทหารควบคุมตัว โดยที่บางแหล่งข่าวบอกว่าเขาถูกกักอยู่ในค่ายของกองกำลังรีพับลิกันการ์ด (กองพลทหารรักษาเมืองหลวง) ซึ่งพวกผู้สนับสนุนเขาพยายามบุกเข้าไปในวันศุกร์นั่นเอง
นอกจากนั้น แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรายหนึ่งเผยว่า กำลังทหารสารวัตรยังได้จับกุมตัว โมฮัมเหม็ด บาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ขณะที่โทรทัศน์ของรัฐบาลระบุว่า มาห์ดิ อาเคฟ อดีตผู้ชี้นำสูงสุดของกลุ่มนี้ก็ถูกรวบตัวแล้วเช่นกัน
