เอเจนซีส์ - เกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิด “คาร์บอมบ์” อานุภาพรุนแรง โจมตีสำนักงานตำรวจอียิปต์กลางดึก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย บาดเจ็บอีกกว่าร้อย ทางการเชื่อต้องการขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย โดยนายกฯ รักษาการตราหน้ากลุ่มภราดรภาพมุสลิมของอดีตประธานาธิบดีอิสลามิสต์เป็น “กลุ่มก่อการร้าย” แต่ไม่ได้ระบุโดยตรงว่า อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์คราวนี้ ขณะที่ขบวนการนี้ก็ออกมาประณามผู้ก่อเหตุบึ้ม และโต้กลับว่า นายกฯ หุ่นเชิดของกองทัพ มุ่งยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น
เหตุระเบิดครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาตีหนึ่งสิบนาที วันอังคาร (24) ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์นองเลือดรุนแรงที่สุดนับแต่กองทัพอียิปต์โค่นล้ม มอร์ฮัมเหม็ด มอร์ซี จากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนกรกฎาคม อีกทั้งเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการลงประชามติรับรองรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 14-15 มกราคม ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญบนเส้นทางประชาธิปไตย และจะนำไปสู่การจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีเป็นอันดับต่อไป
เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่กลุ่มอัลซาร์ เบต อัล-มากดิส หรือ “ผู้ชนะจากเยรูซาเลม” ที่มีขบวนการอัล-กออิดะห์เป็นต้นแบบ เรียกร้องให้ตำรวจและทหารเลิกรับใช้รัฐบาล ไม่เช่นนั้นจะถูกสังหารโดยนักรบของกลุ่ม
กลุ่มนี้และกลุ่มอื่นๆ ที่มีฐานอยู่บนคาบสมุทรซีนาย อ้างความรับผิดชอบในเหตุคาร์บอมบ์และการโจมตีสำนักงานความมั่นคงหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการพยายามลอบสังหารรัฐมนตรีมหาดไทยของอียิปต์ในเดือนกันยายนโดยใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายที่ซุกซ่อนระเบิดไว้ในรถ ทว่า รัฐมนตรีสามารถรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุด ระเบิดสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่สำนักงานตำรวจในเมืองมานซูรา ทางเหนือของกรุงไคโร แพทย์เผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย ส่วนใหญ่เป็นตำรวจ และบาดเจ็บเกิน 100 คน ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการหน่วยงานความมั่นคงของ
ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า ระเบิดมีความรุนแรงมากและทำให้บางส่วนของอาคาร เกิดพังทลายลงมา แรงระเบิดรู้สึกได้ไกลถึง 20 กิโลเมตร และกระจกหน้าต่างอาคารใกล้เคียงหลายแห่งแตก รถตำรวจหุ้มเกราะคันหนึ่งเหลือแต่ซาก และรถของประชาชนอย่างน้อย 10 คันได้รับความเสียหาย
กองกำลังความมั่นคงปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุ ปิดทางเข้า-ออกจากเมือง และตั้งด่านตรวจเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่เสริมว่า การสอบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ระเบิดถูกซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง
ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุต่างพากันโกรธแค้นและกล่าวหาว่า กลุ่มภราดรภาพมุสลิมของมอร์ซีเป็นผู้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ มอร์ซีถูกโค่นล้มเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม หรือหลังจากปกครองประเทศได้เพียง 1 ปี โดยประชาชนจำนวนมากได้ออกมาประท้วงบนถนนและกล่าวหาว่า เขายึดกุมอำนาจและบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด จากนั้นกองทัพก็เข้ามาขับไล่เขา และมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลรักษาการขึ้นแทนที่
นับแต่นั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนจากการปราบปรามของรัฐบาลรักษาการ ซึ่งรวมถึงหลายร้อยคนที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ตอนที่ตำรวจจู่โจมสถานที่ชุมนุมประท้วงกลางกรุงไคโรของกลุ่มผู้สนับสนุนมอร์ซี และมีการจับกุมสมาชิกกลุ่มอิสลามิสต์ในอียิปต์นับพันคน รวมถึงผู้นำภราดรภาพมุสลิม
ผู้นำขบวนการนี้ทั้งโมฮัมเหม็ด บาดี ผู้นำสูงสุด และมอร์ซี ต่างถูกดำเนินคดี โดยตัวมอร์ซีถูกตั้งข้อหาหลายกระทง รวมถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ประท้วงขณะที่เขาเป็นผู้นำประเทศ
อัยการและเจ้าหน้าที่อียิปต์ระบุว่า ภราดรภาพมุสลิมมีสายสัมพันธ์กับนักรบอิสลามิสต์ที่โจมตีกองกำลังความมั่นคงของอียิปต์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะบนคาบสมุทรไซนาย
วันอังคาร ฮาเซม เบบลาวี นายกรัฐมนตรีรักษาการระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เป็นการก่อการร้าย และประกาศว่า ผู้กระทำผิดไม่มีวันหนีรอดจากเงื้อมมือกฎหมาย
เบบลาวียังระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นความพยายามบ่อนทำลายกระบวนการสร้างประชาธิปไตย พร้อมประกาศว่า กลุ่มภราดรภาพมุสลิม เป็นกลุ่มก่อการร้าย
คำประกาศนี้อาจมีนัยสำคัญทางการเมืองก่อนที่จะมีการทำประชามติ แต่ไม่มีผลทางกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มนี้ถูกศาลอียิปต์สั่งยุบเลิกไปแล้วก่อนหน้านี้
ทางด้านสำนักข่าวมีนาของทางการอียิปต์รายงานว่า ในคำแถลงอีกฉบับ เบบลาวีประกาศว่า ลัทธิก่อการร้ายจะไม่สามารถขัดขวางการดำเนินการโรดแมปสู่ประชาธิปไตยได้ ทว่า ไม่มีการพาดพิงถึงกลุ่มภราดรภาพมุสลิมแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน กลุ่มภราดรภาพมุสลิมได้ออกมาแถลงประณามเหตุระเบิดล่าสุดอย่างรุนแรง และตอบโต้ว่า ไม่แปลกใจเลยที่เบบลาวี ที่เป็นนายกฯ หุ่นเชิดของกองทัพ ใช้ประโยชน์จากเลือดเนื้อของประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยการออกคำแถลงที่มุ่งหมายให้เกิดความรุนแรง ความวุ่นวาย และความไร้เสถียรภาพมากขึ้น
