เอเอฟพี - กองทัพอียิปต์เมื่อวันจันทร์ (1 ก.ค.) ให้เวลาประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด มอร์ซี 48 ชั่วโมง สำหรับทำตามข้อเรียกร้องของประชาชน ไม่อย่างนั้นทหารก็จะเข้าแทรกแซง หลังจากประชาชนหลายล้านคนชุมนุมกันบนท้องถนนตามเมืองต่างๆขอให้ผู้นำอิสลามิสต์รายนี้ลาออกจากตำแหน่ง
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ กองทัพอียิปต์ย้ำว่าประธานาธิบดีควรดำเนินการตามข้อเรียกร้องของประชาชนและให้เวลา 48 ชั่วโมง ในโอกาสสุดท้ายที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีแวดล้อมครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศจำเป็นต้องก้าวผ่านไปให้ได้ “ถ้าไม่มีการทำตามข้อเรียกร้องของประชาชนตามกรอบเวลานี้ กองทัพจะแจ้งถึงขั้นตอนต่อไปและมาตรการต่างๆสำหรับดูแลให้มันเกิดผล”
กองทัพอียิปต์ระบุอีกว่า กองทัพขอย้ำว่าแม้จะไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ แต่กองทัพก็จำต้องทำในเรื่องนี้เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ไม่ให้เผชิญกับอันตรายอย่างใหญ่หลวง
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีออกมา 1 วันหลังจากประชาชนหลายล้านคนออกมารวมตัวกันบนท้องถนนขับไล่ประธานาธิบดีมอร์ซี ขณะที่ในจัตุรัสตอห์รีร์ เหล่าผู้ประท้วงต่อต้านผู้นำรายนี้ต่างพากันแสดงความยินดีปรีดาต่อการแสดงจุดยืนของกองทัพ ผิดกับทางภราดรภาพมุสลิม กลุ่มการเมืองของนายมอร์ซี ที่บอกว่ากำลังศึกษารายละเอียดคำแถลงนี้ของทางทหาร
ในอียิปต์ มีความแตกแยกกันอย่างรุนแรง ระหว่างเหล่าผู้สนับสนุนอิสลามิสต์ของนายมอร์ซีกับฝ่ายต่อต้าน ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางกองทัพ เคยให้เวลาทุกฝ่าย 1 สัปดาห์ สำหรับปรองดองความเห็นต่างเหล่านั้น “จนกระทั่งสัปดาห์นี้ไม่มีสัญญาณหรือพฤติกรรมแห่งความสมานฉันท์ใดๆ การเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์รังแต่จะทำให้แตกแยกรุนแรงขึ้น เราเคยเตือนและขอเตือนอีกครั้ง”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมอียิปต์ขีดเส้นตายให้เวลานายมอร์ซีลาออกภายใน 1 วัน ไม่อย่างนั้นก็ต้องเผชิญกับอารยะขัดขืน ตามหลังเหตุประท้วงนองเลือดเรียกร้องประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกลงจากเก้าอี้ แม้เพิ่งทำหน้าที่ได้เพียงปีเดียว
“เราให้เวลา โมฮาเหม็ด มอร์ซี ลงจากอำนาจ จนถึงเวลา 17.00 น. (22.00 น.ตามเวลาในเมืองไทย) ของวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม เพื่อเปิดทางให้สถาบันต่างๆ ของรัฐเตรียมพร้อมสำหรับขัดเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนด” กลุ่มเคลื่อนไหวทามารอด แกนนำผู้ชุนุมระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของพวกเขา “มิเช่นนั้นตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันอังคาร จะเป็นการเริ่มต้นรณรงค์อารยะขัดขืนอย่างเต็มตัว”
กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงท่ามกลางการประท้วงทั่วประเทศแล้วอย่างน้อย 16 คน ในนั้น 8 รายตายในเหตุปะทะระหว่างฝ่านสนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดีมอร์ซี บริเวณด้านนอกของสำนักงานกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในกรุงไคโร ซึ่งสนับสนุนผู้นำรายนี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลบอกกับเอเอฟพีว่า รัฐมนตรี 4 ราย ได้แก่ รัฐมนตรีการท่องเที่ยว รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีโทรคมนาคม และรัฐมนตรีกิจการกฎหมาย ได้ยื่นใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรีไฮชาม กานดิลแล้ว และการลาออกจากตำแหน่งของคณะรัฐมนตรีเหล่านี้ ถือเป็นข่าวร้ายซ้ำเติมนายมอร์ซี ที่ต้องต่อสู้กับตุลาการ สื่อมวลชนและตำรวจ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
ถึงแม้การชุมนุมประท้วงตามเมืองต่างๆ ในวันอาทิตย์ส่วนใหญ่แล้วดำเนินไปด้วยความสงบ แต่ก็เกิดการปะทะกันในหลายจุด โดยกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า รวมทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตไป 16 คน ในจำนวนนี้ 8 คนตายจากการต่อสู้กันระหว่างพวกผู้คัดค้านและพวกผู้สนับสนุนมอร์ซี ที่บริเวณด้านนอกของสำนักงานประจำกรุงไคโรของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นฐานสนับสนุนสำคัญที่สุดของประธานาธิบดีผู้มีแนวคิดอิสลามเคร่งจารีตผู้นี้
เหตุการณ์ปะทะกันที่ด้านนอกสำนักงานไคโรของขบวนการภราดรภาพมุสลิมซึ่งยังผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 8 คนนั้น เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนจนกระทั่งถึงเช้ามืดวันจันทร์ โดยผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในที่สุดแล้วผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาอาคารก่อนบุกเข้าไปทำลายข้าวของกระจายเกลื่อน
มีรายงานว่า ไม่เพียงที่ทำการของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในไคโร แต่ในอีกหลายๆ เมืองก็ถูกเผาและปล้นในคืนวันอาทิตย์เช่นกัน พวกผู้นำของกลุ่มยังร้องเรียนว่าตำรวจไม่ช่วยปกป้องพวกตนเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังคงมีปัญหาในการควบคุมหน่วยงานความมั่นคง
ทั้งนี้ ข่าวระบุว่ามีตำรวจสวมเครื่องแบบจำนวนหนึ่งเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงทั้งในไคโรและอเล็กซานเดรีย และนายตำรวจอาวุโสหลายคนยังขึ้นเวทีปราศรัยที่จัตุรัสตอห์รี ของกรุงไคโรด้วย
พวกกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีก็ได้นัดหมายจัดการชุมนุมของตนในวันอาทิตย์เช่นกัน ในย่านนาสร์ซิตี้ของไคโร ทว่ามีผู้เข้าร่วมเพียง 25,000 คน เทียบไม่ได้เลยกับจำนวนคนซึ่งเข้าร่วมกับฝ่ายค้าน
กระนั้น อีฮับ ฟาห์มี โฆษกของมอร์ซียังคงยืนกรานว่าทางออกเดียวสำหรับวิกฤตการเมืองในขณะนี้คือการเจรจา
ภายหลังการชุมนุมของคนนับล้านในวันอาทิตย์ เมืองต่างๆ ทั่วอียิปต์ก็สงบเงียบลงเมื่อเข้าสู่เช้าวันจันทร์ ที่จัตุรัสตอห์รีในไคโร สัญลักษณ์การปฏิวัติโค่นอำนาจผู้นำเผด็จการ ตลอดจนบริเวณหน้าทำเนียบประธานาธิบดี เหลือผู้ประท้วงปักหลักชุมนุมเพียงหลักร้อย แต่ถ้าหากมวลชนจำนวนมากกลับเข้ามาใหม่ในตอนกลางคืน และโดยเฉพาะเมื่อถึงกำหนดเส้นคืนเย็นวันอังคารที่ขีดโดยขบวนการตอมาร็อด สถานการณ์ก็สามารถกลับคืนสู่ความร้อนระอุ โดยจุดสนใจจะไปรวมศูนย์อยู่ที่ว่ากองทัพจะคิดอ่านดำเนินการอย่างไรต่อไป
กลุ่มเคลื่อนไหวทามารอด หรือ “การก่อกบฏ” ในภาษาอาหรับ บอกว่าสามารถรวบรวมรายชื่อประชาชนได้มากกว่า 22 ล้านรายชื่อ สำหรับยื่นยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจต่อนายมอร์ซี พร้อมเรียกร้องเขาลาออกจากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้งใหม่ ขณะที่กลุ่มทามารอด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ (30 มิ.ย.) ที่มีผู้ชุมนุมเข้าร่วมหลายล้านคน
ขณะที่นายมอร์ซียืนกรานว่าทางออกเดียวคือการเจรจา แต่อีกฟากหนึ่งก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ทหารเข้าแทรกแซงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มทามารอด วิงวอนสถาบันของรัฐทั้งหลายให้การสนับสนุนผู้ชุมนุม พร้อมขอกองทัพ ตำรวจและศาล ยืนอยู่เคียงข้างเจตนารมย์ของประชาชน ขณะที่ทหารซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนถ่ายอันอึกทึกครึกโครมตามหลังเหตุปฏิวัติประชาชนโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ก็เตือนว่าจะเข้าแทรกแซงหากว่าเกิดเหตุไม่สงบครั้งใหญ่
