เอเอฟพี - ผู้ชุมนุมอียิปต์เมื่อวันจันทร์(1) ขีดเส้นตายให้เวลาโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ลาออกภายใน 1 วัน ไม่อย่างนั้นก็ต้องเผชิญกับอารยะขัดขืน ตามหลังเหตุประท้วงนองเลือดเรียกร้องประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกลงจากเก้าอี้ แม้เพิ่งทำหน้าที่ได้เพียงปีเดียว
"เราให้เวลา โมฮาเหม็ด มอร์ซี ลงจากอำนาจ จนถึงเวลา 17.00 น.(22.00 น.ตามเวลาในเมืองไทย)ของวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม เพื่อเปิดทางให้สถาบันต่างๆของรัฐเตรียมพร้อมสำหรับขัดเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนด" กลุ่มเคลื่อนไหวทามารอด แกนนำผู้ชุนุมระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของพวกเขา "มิเช่นนั้น ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันอังคาร จะเป็นการเริ่มต้นรณรงค์อารยะขัดขืนอย่างเต็มตัว"
กระทรวงสาธารณสุขเผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงท่ามกลางการประท้วงทั่วประเทศแล้วอย่างน้อย 16 คน ในนั้น 8 ราย ตายในเหตุปะทะระหว่างฝ่านสนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดีมอร์ซี บริเวณด้านนอกของสำนักงานกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในกรุงไคโร ซึ่งสนับสนุนผู้นำรายนี้
ส่วนผู้เสียชีวิตคนอื่นๆประกอบด้วย อีก 3 รายในจังหวัดอัสยูด ด้านในฟายุม, เบนี ซูอีฟ และคาฟร์เอลเชก พบคนตายจังหวัดละคน ขณะที่อีกสองคนที่เหลือ คนหนึ่งตายเพราะขาดอากาศหายใจระหว่างรวมชุมนุมด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดีที่กรุงไคโรและรายสุดท้ายเสียชีวิตจากพิษบาดแผลที่ได้รับจากเหตุปะทะในเมืองอเล็กซานเดรีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลบอกกับเอเอฟพีว่ารัฐมนตรี 4 รายได้แก่รัฐมนตรีการท่องเที่ยว รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีโทรคมนาคมและรัฐมนตรีกิจการกฎหมาย ได้ยื่นใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรีไฮชาม กานดิล แลว และการลาออกจากตำแหน่งของคณะรัฐมนตรีเหล่านี้ ถือเป็นข่าวร้ายซ้ำเติมนายมอร์ซี ที่ต้องต่อสู้กับตุลาการ สื่อมวลชนและตำรวจ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
กลุ่มเคลื่อนไหวทามารอดหรือ "การก่อกบฏ" ในภาษาอาหรับ บอกว่าสามารถรวบรวมรายชื่อประชาชนได้มากกว่า 22 ล้านรายชื่อ สำหรับยื่นยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจต่อนายมอร์ซี พร้อมเรียกร้องเขาลาออกจากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้งใหม่ ขณะที่กลุ่มทามารอด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์(30มิ.ย.) ที่มีผู้ชุมนุมเข้าร่วมหลายล้านคน
ขณะที่นายมอร์ซียืนกรานว่าทางออกเดียวคือการเจรจา แต่อีกฟากหนึ่งก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ทหารเข้าแทรกแซงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มทามารอด วิงวอนสถาบันของรัฐทั้งหลายให้การสนับสนุนผู้ชุมนุม พร้อมขอกองทัพ ตำรวจและศาล ยืนอยู่เคียงข้างเจตนารมย์ของประชาชน ขณะที่ทหารซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนถ่ายอันอึกทึกครึกโครมตามหลังเหตุปฏิวัติประชาชนโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ก็เตือนว่าจะเข้าแทรกแซงหากว่าเกิดเหตุไม่สงบครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตามโฆษกของนายมอร์ซีบอกกับผู้สื่อข่าวว่า "การเจรจาคือทางออกเดียวที่เราสามารถบรรลุความเข้าใจ ท่านประธานาธิบดีเปิดกว้างสำหรับการเจรจาที่แท้จริงและจริงจัง"
เมื่อวันอาทิตย์(30มิ.ย.) ชาวอียิปต์หลายล้านคนออกมาแสดงพลังขับไล่ประธานาธิบดี มอร์ซี ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เขาขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ และถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในอียิปต์ นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ถูกโค่นล้มด้วยน้ำมือประชาชนเมื่อปี 2011
การประท้วงขับไล่ มอร์ซี เกิดขึ้นทั้งในเมืองอเล็กซานเดรีย, มันซูรา, เมนุฟ, ทันทา, มาฮัลลา, สุเอซ, พอร์ตซาอิด และแม้แต่ซากาซิก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีเอง
ส่วนที่จตุรัสตอห์รีในกรุงไคโร ผู้ประท้วงต่างโบกสะบัดป้ายสีแดงและธงชาติอียิปต์ ท่ามกลางเสียงเพลงปลุกใจที่ดังกระหึ่มจากลำโพงซึ่งติดตั้งอยู่ทั่วบริเวณ ขณะที่ฝ่ายผู้สนับสนุน มอร์ซี ที่จัดการชุมนุมต้านมานานหลายวันแล้ว ก็ยังยืนยันจะปักหลักต่อ เพื่อปกป้องอำนาจอันชอบธรรมของประธานาธิบดี
ศัตรูของ มอร์ซี กล่าวหาว่า เขา “ทรยศ” ต่อเจตนารมณ์ของการปฏิวัติ โดยให้อำนาจส่วนใหญ่ไปตกอยู่ในมืออิสลามิสต์ จนส่งผลให้เศรษฐกิจอียิปต์ตกต่ำอย่างรุนแรง ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนแย้งว่า มอร์ซี ต้องแบกรับปัญหาที่รัฐบาลมูบารัคก่อไว้ และควรได้รับโอกาสบริหารประเทศต่อไปจนครบวาระในปี 2016