เอเอฟพี - ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) กับสหรัฐฯ ที่ทุกฝ่ายเฝ้ารอคอยมานานอาจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด หลังวอชิงตันถูกเปิดโปงอีกครั้งว่ามีการดักฟังโทรศัพท์ และลักลอบเข้าไปสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงานอียูหลายแห่ง วิเวียน เรดิง กรรมาธิการยุติธรรมยุโรป เอ่ยเตือนวานนี้(30)
นิตยสาร เดอร์ สปีเกล ของเยอรมนี อ้างการเปิดเผยของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของสำนักงานความมั่นคงสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ที่เคยออกมาแฉพฤติกรรมสอดแนมพลเมืองของวอชิงตันจนเป็นที่ฉาวโฉ่มาแล้ว ขณะที่หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษก็ลงรายงานเพิ่มเติมวันนี้(1)ว่า แม้แต่สถานทูตฝรั่งเศส, อิตาลี และกรีซ ในกรุงวอชิงตัน ก็ตกเป็นเหยื่อของหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ เช่นกัน
ทั้งบรัสเซลส์, ปารีส และเบอร์ลิน ต่างแสดงท่าทีไม่พอใจ พร้อมขอคำอธิบายโดยด่วนจากสหรัฐฯ หลังจากที่ เดอร์ สปีเกล เปิดโปงกลวิธีที่ เอ็นเอสเอ ใช้ล้วงความลับจากสำนักงานการทูตของอียู เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(29) โดยอ้างข้อมูลจากเอกสารลับสุดยอดที่ สโนว์เดน นำติดตัวไปด้วย
เรดิง เตือนว่า ข้อกล่าวหานี้อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อแผนเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯและอียู ซึ่งเพิ่งเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนนี้
“ตราบใดที่ยังมีข้อกังขาว่า หุ้นส่วนของเราพยายามสอดแนมสำนักงานผู้เจรจาของยุโรป การเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่าง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก คงไม่อาจมีขึ้นได้” โฆษกของ เรดิง อ้างคำพูดที่เธอกล่าวในการประชุมที่ลักเซมเบิร์ก
ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศวานนี้(30)ว่า จะชี้แจงเรื่องข้อหาสอดแนมต่ออียูผ่านช่องทางทางการทูต
“เราไม่ขอแสดงความเห็นใดๆต่อข้อกล่าวหาเรื่องกิจกรรมข่าวกรอง เพราะสหรัฐฯมีนโยบายที่ชัดเจนในการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองจากต่างประเทศ ในรูปแบบเดียวกับที่ทุกๆประเทศทำกัน” สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
เดอร์ สปีเกล อ้างเอกสาร “ลับสุดยอด” ฉบับเดือนกันยายน ปี 2010 ซึ่งอธิบายรายละเอียดของวิธีการที่ เอ็นเอสเอ ใช้สอดแนมเจ้าหน้าที่การทูตอียูในกรุงวอชิงตัน และอ้างว่าผู้แทนอียูประจำองค์การสหประชาชาติ ตลอดจนสำนักงานใหญ่อียูในกรุงบรัสเซลส์ ก็ถูกสหรัฐฯล้วงข้อมูลอยู่เช่นกัน
ด้านหนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน อ้างเอกสารลับที่เอ่ยถึงปฏิบัติการ “เปอร์ดิโด” (Perdido) ที่สหรัฐฯใช้วิธีสร้าง “บักส์” (bugs) หรือจุดบกพร่องลงในเครื่องโทรสารของสถานทูต เพื่อสืบความขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิกอียู
เยอรมนีซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของอียู เตือนให้วอชิงตันเร่งชี้แจงว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นจริงหรือไม่
“เราไม่คาดคิดมาก่อนว่า มิตรสหายในสหรัฐฯจะมองเราเป็นเหมือนชาติศัตรู” รัฐมนตรียุติธรรมเยอรมนี ระบุในถ้อยแถลง
“หากรายงานของสื่อเป็นความจริง ย่อมไม่ต่างจากการกระทำของชาติที่เป็นศัตรูกันในช่วงสงครามเย็น”