“โครเอเชีย” เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ

เอเอฟพี - ท้องฟ้าเหนือกรุงซาเกร็บสว่างไสวไปด้วยแสงสีละลานตาจากพลุดอกไม้ไฟเมื่อเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(30) ขณะที่ชาวโครเอเชียหลายหมื่นคนร่วมเฉลิมฉลองวันประวัติศาสตร์ที่ประเทศของพวกเขาเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ

การเป็นหนึ่งในสมาชิกอียูถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับอดีตสาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ซึ่งเคยผ่านเหตุการณ์นองเลือดในสงครามแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อทศวรรษที่ 1990

ชาวโครเอเชียราว 20,000 คน และบุคคลสำคัญกว่า 100 คนจากกลุ่มประเทศยุโรป เดินทางมาประชุมที่จตุรัสใจกลางกรุงซาเกร็บ เพื่อนับถอยหลังสู่เวลาเที่ยงคืน (5.00 น. ตามเวลาในไทยวันนี้) ซึ่งโครเอเชียกลายเป็นสมาชิกอียูชาติที่ 28 อย่างเป็นทางการ

โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวแสดงความยินดีต่อฝูงชนว่า “ขอต้อนรับเข้าสู่สหภาพยุโรป”

กิจกรรมเฉลิมฉลองถูกจัดขึ้นทั่วทุกเมืองในโครเอเชีย โดยประชาชนต่างร่วมกันขับร้องเพลง “Ode to Joy” จากการประพันธ์ของบีโธเฟน ซึ่งถูกยกให้เป็นเพลงสดุดีสหภาพยุโรป

เฮอร์มาน แวน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป ซึ่งเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับชาติสมาชิกใหม่ที่กรุงซาเกร็บ ระบุว่า โครเอเชีย “ได้ก้าวผ่านช่วงสำคัญ... ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่งขึ้น”

เจ้าหน้าที่โครเอเชียได้นำป้าย “ศุลกากร” (Customs) ออกจากจุดผ่านแดนฝั่งที่ติดกับสโลวีเนีย ซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเช่นกัน และได้นำสัญลักษณ์ “อียู” ขึ้นไปติดที่จุดผ่านแดนกับเซอร์เบีย ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(28) เพิ่งจะได้รับไฟเขียวจากบรัสเซลส์ให้เปิดเจรจาขอเข้าเป็นสมาชิกใหม่อียูในช่วงเดือนมกราคม ปี 2014

รัฐบาลฝ่ายกลางซ้ายของโครเอเชียหวังว่า การเป็นสมาชิกอียูจะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟูขึ้นจากกองทุนช่วยเหลือที่อาจจะสูงถึง 11,700 ล้านยูโร

อย่างไรก็ดี หลายคนยังเกรงว่า การเข้าร่วมกับอียูจะยิ่งเพิ่มภาระหนักแก่โครเอเชีย ซึ่งเศรษฐกิจที่อิงการท่องเที่ยวกำลังถดถอยหนักในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และยังมีอัตราการว่างงานสูงถึง 20%

ข้อมูลจากอียูระบุว่า ค่าจีดีพีต่อหัวของโครเอเชียยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอียูถึง 39% แต่ยังสูงกว่าโรมาเนียและบัลแกเรีย